นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งจัดประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาความแออัดของรถบรรทุกสินค้าบริเวณหน้าด่านสะเดาที่ส่งผลให้ผู้ใช้เส้นทางสัญจรได้รับผลกระทบและผู้ประกอบการเสียค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น โดยจะพิจารณาข้อเสนอของมาเลเซียที่เสนอให้มีการ เปิดด่าน 24 ชั่วโมง
ขณะที่ก่อนหน้าได้นำร่องขยายระยะเวลาปิดด่านออกไปฝั่งละ 1 ชั่วโมง มาแล้ว โดยฝั่งไทยปิดเวลา 24.00 น. จากเดิม 23.00 น. และฝั่งมาเลเซียปิด 01.00 น. จากเดิม 24.00 น. เพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น โดยมาเลเซียเสนอให้เปิดด่านศุลกากรสะเดากับด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง อยู่ระหว่างเจรจาของทั้งสองฝ่าย โดยกระทรวงจะพิจารณาผลดีผลเสียทั้งด้านการขยายการค้า การท่องเที่ยว ว่าเป็นอย่างไร และนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่กำลังศึกษาความเหมาะสมการขยายเวลาเปิดด่านสะเดาและปาดังเบซาร์ 24 ชั่วโมง
สำหรับการขนส่งสินค้าทางด่าน ปาดังเบซาร์จะเป็นการขนส่งทางราง แต่ละปีขนส่งสินค้าจำนวนกว่า 1.2 แสนตู้ ส่วนการส่งทางรถยนต์จะผ่านทางด่านสะเดา มีรถบรรทุกสินค้าจากไทยไปมาเลเซียเกือบ 2 แสนคัน/ปี ซึ่งด่านศุลกากรสะเดาได้ก่อสร้างขยายพื้นที่ หน้าด่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดใช้งาน ส่วนการก่อสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่อยู่ระหว่างปรับพื้นที่และก่อสร้าง ตาม แผนงานจะแล้วเสร็จในปี 2562
ปัจจุบันการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ค้าขายผ่านด่านสำคัญ คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา มีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 98% ของมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม้แปรรูป สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร รถยนต์
ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญเป็นสินค้าประเภท เครื่องคอมพิวเตอร์ สื่อบันทึกข้อมูลภาพเสียง เทปแม่เหล็กจานแม่เหล็กสำหรับคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรม เป็นต้น
