รองผู้ว่าฯ หามาตรการป้องปราบแก้ไขปัญหาเด็กชุมชนหาดราไวย์ วิ่งขอเงินจากนักท่องเที่ยว เดินตามเกาะแขนเกาะขาจนกว่าจะได้เงิน

ภูเก็ต - วันที่ 15 มิ.ย. นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาเด็กขอทานในพื้นที่ชุมชนชาวไทยใหม่ ต.ราไวย์ กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพิจารณาถึงแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหา

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 16 มิถุนายน 2560, เวลา 17:55 น.

ภาพ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดภูเก็ต

ภาพ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดภูเก็ต

“โดยการประชุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ได้มีกรณีร้องเรียนให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเด็กขอทานจากนักท่องเที่ยว หรือบุคคลทั่วไปบริเวณพื้นที่ชุมชนชาวไทยใหม่ ท่าเทียบเรือราไวย์ และทางจังหวัดได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีเด็กมาขอเงินจากนักท่องเที่ยวจริง จำนวนประมาณ 12 คน อายุประมาณ 8-12 ปี เด็กหลายคนเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ ใกล้กับชุมชนชาวไทยใหม่ และมีเด็กบางคนไม่ได้เรียนหนังสือตามเกณฑ์ มีพฤติกรรมวิ่งขอเงินจากนักท่องเที่ยว เดินตามเกาะแขนเกาะขาจนกว่าจะได้เงิน เรียกเก็บเงินจากรถที่มาจอด โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ของบริษัทท่องเที่ยวพามาลงเรือที่ท่าเทียบเรือราไวย์ และนักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหารที่ร้านอาหารในพื้นที่ชุมชนชาวไทยใหม่” นางศิวพร กล่าว

นายนิรันดร์ หยังปาน ผู้นำชุมชนชาวไทยใหม่ กล่าวว่า ปัญหาเด็กขอทานเป็นปัญหาเรื้อรัง ซึ่งตนเคยเรียกพ่อแม่ของเด็กมาคุยอธิบายให้เข้าใจว่าการไปขอเงินผิดกฎหมาย ก็ได้รับคำตอบว่า พ่อแม่ไม่ผิด เพราะลูกเป็นผู้ปฏิบัติ เขาไม่กลัว บอกว่าเด็กขอไม่เป็นไร ขอกันได้ เมื่อพ่อแม่ว่าลูกสามารถหาเงินได้ ก็ไม่ห้ามปรามแต่กลับส่งเสริมให้ลูกกระทำผิด และปัจจุบันเด็กกลุ่มนี้ก็มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้เป็นปัญหาซึ่งกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ชุมชนชาวไทยใหม่ หาดราไวย์ ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในชุมชนกว่า 1,000 คนต่อวัน

นางศิวพร กล่าวอีกว่า ในการแก้ปัญหาดังกล่าวต้องใช้มาตรการปราบปรามก่อน ฝากให้ทางเทศบาลตำบลราไวย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตั้งป้อมและให้มีคนมาอยู่ประจำป้อม ขณะที่มาตรการป้องกัน ให้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวบรวมฐานความผิดทั้งหมดเผยแพร่ไปยังชุมชนฯ ให้มีความถี่ในการลงพื้นที่ไปให้ความรู้เชิงรุก ให้ไปดูกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในและนอกสถานศึกษา โดยร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อดึง เข้ามาร่วมกิจกรรม ต่างๆ เพื่อจะได้ไม่ไปวุ่นวายกับนักท่องเที่ยว และให้ทางหน่วยงานท่องเที่ยว จัดทำโปรชัวร์ไปแจกให้กับไกด์และนักท่องเที่ยว เพื่อจะได้รู้ว่าเขาไม่ควรที่จะมาให้เงินกับเด็กที่มีพฤติกรรมแบบนี้

“เชื่อว่าถ้าเด็กกลุ่มนี้เห็นเจ้าหน้าที่ ก็จะกลัวไม่กล้าที่จะไปขอเงินจากนักท่องเที่ยว และให้มีการหมุนเวียนกันเดินตรวจตราอย่างต่อเนื่อง ถ้าพบเห็นเด็กไปขอเงินจากนักท่องเที่ยว จะต้องเข้าไปตักเตือนพร้อมกับเรียกพ่อแม่ของเด็กมารับทราบพฤติกรรมและให้มีการบังคับใช้กฎหมาย จากเบาไปหาหนัก เพื่อให้เห็นว่าถ้าพ่อแม่ยังปล่อยปละละเลย ยังปล่อยให้มีพฤติกรรมแบบนี้ พ่อแม่ก็จะต้องรับผิดชอบ เพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้นไม่ถูกต้อง และกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้วย” รองผู้ว่าฯ กล่าว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่