ศพพลทหารกล้าถึงบ้านแล้ว ประกอบพิธีฝังช่วงเช้า ภรรยาเผยขอดูหน้าลูกก่อนเกิดเหตุ

ภูเก็ต - ลำเลียงศพทหารกล้า 1 ใน 6 เหยื่อบึ้มทุ่งยางเเดงกลับบ้านเกิดหมากปรกภูเก็ต เพื่อประกอบพีธีฝังตามหลักศาสนาอิสลามในเวลา 9 โมงเช้า ภรรยาพร้อมลูกวัยขวบเศษร่ำไห้ เผยสามีวีดิโอคอลขอดูหน้าลูกไม่ถึงชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 20 มิถุนายน 2560, เวลา 09:32 น.

จากกรณีเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 19 มิ.ย.ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบวางระเบิดรถยนต์ ทหาร ชป.จรยุทธ์ ร้อย ร.15324 ฉก.ปน.25 ทำให้รถยนต์พังเสียหาย เบื้องต้นแรงระเบิดทำให้กำลังพลในรถเสียชีวิต 6 นายและได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เหตุเกิดบริเวณพื้นที่บนถนนดินแดง ข้ามป่าพรุทุ่งยางแดง ม.5 ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี (อ่านเพิ่มเติม คลิก

ต่อมาในเวลา มีรายงานว่า ทหาร 1 ใน 6 นายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ พลทหารกิตติพงษ์ บ่อหนา อายุ 23 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 114/6 ม.1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้เตรียมนำส่งศพให้ครอบครัวไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะนำส่งศพโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงจอดที่โรงเรียนบ้านหมากปรก ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร ซึ่งจะมาถึงในเวลา 19.00 น.โดยประมาณ

เมื่อทุกคนทราบข่าวการจากไปของพลทหารกิตติพงษ์ต่างก็โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากและได้มีการเตรียมการประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านหลังดังกล่าว โดยญาติๆได้ช่วยกันนำเต็นท์มากางและนำเก้าอี้มาวาง เพื่อรอรับร่างอันไร้วิญญาณของพลทหารกิตติพงษ์

เมื่อศพมาถึงจะทำการตรวจสอบในเบื้องต้นว่าสภาพศพเป็นอย่างไร หากมีสภาพไม่สมบูรณ์ก็จะต้องทำการฝังในทันที หากสภาพยังสมบูรณ์ก็จะเก็บไว้ยังหน้าบ้านซึ่งมีการจัดเตรียมพื้นที่ไว้ โดยจะมีการอ่านดุอาร์ตลอดทั้งคืน และจะทำพิธีอาบน้ำ ห่อผ้าและร่วมละหมาดให้ทหารกล้าผู้จากไปก่อนจะทำการฝังในเวลา 09.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.ที่กุโบร์บ้านบางดุก หมู่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

สำหรับ พลทหารกิตติพงษ์ มีบิดาชื่อ นายประสงค์ บ่อหนา อายุ 53 ปี มีอาชีพขับแท็กซี่และมีนางอัมภา บ่อหนา อายุ 55 ปีเป็นมารดา เป็นแม่บ้าน โดยพลทหารกิตติพลมีพี่ 2 คน ประกอบด้วย นางวิไลพร บ่อหนา อายุ 30 ปีและนายวิทวัส บ่อหนา อายุ 26 ปี พลทหารกิตติพงษ์เป็นคนสุดท้อง มีภรรยาชื่อ น.ส.สุกัญญา ปาทาน อายุ 22 ปี อยู่กินกันมา 3 ปี มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน ชื่อ ด.ช.มิมบัส บ่อหนา อายุ 1 ปี 4 เดือน

น.ส.สุกัญญา ภรรยาของนายกิตติพงษ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ10โมงเช้าสามีได้วีดิโอคอล มาหาโดยบอกว่าคิดถึงลูก เเละบอกว่าไม่กี่วันจะกลับมาร่วมฉลองวันฮารีรายอกับตนเเละลูก จากนั้นคุยไม่นาน สามีบอกว่าต้องเเต่งตัวจะไปขึ้นรถ ออกลาดตระเวน ก่อนที่สัญญาณขาดหายไป จากนั้นไม่นานก็มีคนโทรมาบอกว่าสามีเสียชีวิตก็รู้สึกตกใจเเละเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาสามีเป็นคนดี รักครอบครัวมาก ไม่คิดว่าจากตนกับลูกไปเร็วเกินไป

ทั้งนี้ในเวลา 19.30 น.เจ้าหน้าที่ทหารเเจ้งว่าได้มีการเปลี่ยนเเปลงกำหนดการณ์เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงศพทหารกล้าเจอสภาพอากาศไม่ดีจึงต้องลงจอดที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อประเมินสภาพอากาศ ปรากฏว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงตัดสินใจลำเลียงศพขึ้นรถจีเอ็มซี เดินทางต่อมายังจ.ภูเก็ต โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง คาดว่าจะมาถึงในเวลา 23.00 น.ซึ่งครอบครับเเละญาติๆนั่งรอรับศพทหารกล้าอย่างใจจดใจจ่อ

ในเวลาประมาณ 24.00 น.เจ้าหน้าที่ทหารได้ลำเลียงศพพลทหารกิตติพงษ์มาถึงยังบ้านเกิดโดยมีคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง พร้อมทั้งผู้เเทนแม่ทัพภาค 4 เเละหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดภูเก็ตหลายท่าน ประกอบด้วย นายสำราญ สินธ์ทอง ที่ปรึกษาแม่ทัพภาค4 นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัด นาย วิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำทางศาสนา เเละประชาชนมาร่วมรับศพทหารกล้าหลายร้อยคน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

โดยหลังรับศพเเล้ว ทางอิหม่ามซึ่งเป็นผู้นำทางศาสนาและครอบครัวได้เข้าดูสภาพศพเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะทำการฝังเลยหรือไม่ ผลปรากฏว่า ยืนยันตามกำหนดการเดิมคือทำพิธีฝังในช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ก่อนจะมีพิธีพระราชทานดินฝังศพ พร้อมประดับกองเกียรติยศในภายหลัง

เบื้องต้นได้รับรายงานว่าพลทหารกิตติพงษ์ได้รับการเลื่อน5ชั้นยศเป็น จ.ส.อ. รวมทั้งได้รับค่าตอบแทนประมาณ 2 ล้านบาท

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่