จังหวัดเล็งจับ-ปรับจริงกรณีเด็กขอเงิน

ภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตบรูณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาเด็กขอทานในพื้นที่ชุมชนชาวไทยใหม่ ต.ราไวย์ ภายหลังจากที่มีการร้องเรียนให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเด็กขอทานจากนักท่องเที่ยวหรือบุคคลทั่วไป โดยมีนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหา ภายหลังจากที่ทางจังหวัดได้มีการตรวจสอบและพบว่ามีเด็กมาขอเงินจากนักท่องเที่ยวจริง

วันเสาร์ ที่ 24 มิถุนายน 2560, เวลา 09:00 น.

ภาพ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ภูเก็ต

ภาพ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ภูเก็ต

น.ส.ธัญพร อุน่ เศียร ผ.อ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ภูเก็ต กล่าวถึงกรณีเด็กขอทานชาวไทยใหม่ว่า “ก่อนหน้านี้เราได้รับแจ้งปัญหาเด็กขอทานดังกล่าวแล้ว และได้เข้าสำรวจและเก็บข้อมูลในพื้นที่ จนพบว่าเกิดปัญหานั้นจริง ซึ่งจากการสำรวจพบว่าต้นตอของการ “ให้ทาน” นั้นเกิดจากไกด์นำเที่ยวชาวจีนได้โปรโมทนักท่องเที่ยวว่าจะมีการให้ทานเด็กชาวไทยใหม่ที่ท่าเทียบเรือ จึงเป็นที่มาของปัญหาดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยกับไกด์ทัวร์แล้วว่าให้หยุดการโปรโมทนั้นเพื่อหยุดปัญหาเบื้องต้น”

“นอกจากนี้ยังพบว่าสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนชาวไทยใหม่นั้นมีความแออัดอย่างมาก และไม่เอื้ออำนวยต่อการวิ่งเล่น ซึ่งเป็นพฤติกรรมธรรมชาติของเด็กเล็ก จึงทำให้เด็กๆมารวมตัวเล่นกันที่ท่าเทียบเรือเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองนัดประชุมกับบุคลากรในโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ในการปรับแผนการสอนและหลักสูตรในโรงเรียนให้มีการกระตุ้นให้เด็กๆชาวไทยใหม่ในการเข้าเรียนมากขึ้น และทางเจ้าหน้าที่เองได้สำรวจความชอบของเด็กว่า ชอบอะไร ตอนนี้กำลังอยูในระหว่างการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้ใช้เวลาว่างอย่างมีคุณค่า เช่นงานประดิษฐ์ของชำร่วยหรือสิ่งของต่างๆ เพื่อขายให้นักท่องเที่ยว หรือส่งเสริมกิจกรรมการแสดง เพื่อโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ดูและอาจจะมีการเก็บค่าเข้าชม แนวทางนี้จะได้ทำให้เด็กใช้เวลาอย่างมีประโยชน์และสร้างรายได้ให้เด็กๆ และครอบครัวด้วย” น.ส.ธัญพร กล่าว

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางศูนย์ฯได้นัดประชุมกับแกนนำชาวบ้านประมาณ 10 คน เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกฎหมายในพรบ.ควบคุมขอทาน 2559 ว่าถ้าหากผู้ปกครองส่งเสริมให้บุตรมีพฤติกรรมขอทานจะโดนลงโทษทางกฎหมายตามพรบ.ดังกล่าวใน มาตรา 22 ผู้ใดแสวงหาประโยชน์จากผู้ทำการขอทานโดยการใช้ จ้าง วาน สนับสนุนยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใดใหผู้อื่นทำการขอทาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ซึ่งแกนนำรับปากว่าจะนำไปแจ้งให้ชาวบ้านได้รับทราบต่อไป”

ในขณะเดียวกัน นายอรุณ โสฬส นายกเทศบาลตำบลราไวย์ ก็ได้มีการประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออก
ปัญหาเด็กชาวเลราไวย์เร่ขอเงินนักท่องเที่ยวและปัญหาที่จอดรถบริเวณท่าเรือราไวย์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายอรุณนายจรุง เถาจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ราไวย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ร่วมหารือในข้อปัญหาดังกล่าวและมีข้อสรุปว่า จะมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการวางป้อมและเตรียมจัดกำลังเจ้าหน้าที่จาก ชุดรักษาหมู่บ้าน อปพร. และเจ้าหน้าตำรวจจากสภ.ฉลองเพื่อตระเวนสำรวจตรวจตราในช่วงเวลาจากเที่ยงวันไปจนถึง 21.00 น. เพราะเป็นช่วงที่เด็กชาวไทยใหม่จะออกมาขอทานเนื่องจากเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวมายังท่าเรือเพื่อออกทริปดำน้ำและรับประทานอาหารที่บริเวณท่าเรือ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้วในวันที่ 22 มิ.ย.

ทั้งนี้ นายอรุณกล่าวว่าทางเทศบาลเองก็ได้มีการพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กแล้วในเบื้องต้น แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

“โดยพื้นฐานทางครอบครัวของเด็กที่ออกมาขอทานนั้นมีสภาพยากจนจริงๆและไม่ได้เรียนหนังสือ ที่ผ่านมาเราได้พยายามเข้าไปเจรจาให้ผู้ปกครองของเด็กเหล่านั้นให้ส่งลูกไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสว่างอารมณ์ เพื่อสนองนโยบายการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐ ซึ่งเรียนฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ส่วนมากได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่บางส่วนก็ไม่มีเงินที่จะซื้อเครื่องแบบ เด็กก็ไม่มีกำลังใจจะไปเรียนเพราะบางคนโดนเพื่อนล้อเพราะชุดเก่า หรือมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่าง เช่นผิวคล้ำหรือผมหยิก และพ่อแม่เองก็ไม่ได้เห็นความสำคัญทางการศึกษาจึงไม่มีการเคี่ยวเข็ญให้บุตรได้เรียน จึงเกิดปัญหานี้ขึ้นมา แต่ครอบครัวที่เห็นคุณค่าของการเรียนก็เรียนต่อไปถึงปริญญาตรีก็มีเหมือนกัน” นายอรุณ กล่าว

“ส่วนเรื่องปัญหาการจอดรถนั้น ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามายังพื้นที่ ต.ราไวย์มากขึ้นเพื่อรับประทานอาหารทะเลที่บริเวณท่าเทียบเรือราไวย์ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอและจอดกันอย่างไม่มีระเบียบ ทางเทศบาลจึงต้องเข้ามาจัดระเบียบใหม่ให้มีระบบมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ได้ตีเส้นจราจรไว้สำหรับเป็นที่จอดรถ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงต้องจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ประจำป้อมเพื่อตรวจตราเรื่องปัญหาการจอดรถด้วยควบคู่กัน และจะได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญในระยะยาวต่อไป”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่