น้ำท่วมใต้เสียหาย 2 หมื่นล้าน

หอการค้าไทยประเมินความเสียหายน้ำท่วมใต้ 2.23 หมื่นล้าน กระทบจีดีพี 0.1% ภาคเกษตรเสียหายมากที่สุด โดยเฉพาะสวนยางพาราเสียหายมาก

โพสต์ทูเดย์

วันศุกร์ ที่ 13 มกราคม 2560, เวลา 10:51 น.

ประชาชนในหลายจังหวัดภาคใต้ ต้องเผชิญกับอุทกภัยและได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภาพ โพสต์ทูเดย์

ประชาชนในหลายจังหวัดภาคใต้ ต้องเผชิญกับอุทกภัยและได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภาพ โพสต์ทูเดย์

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเสียหายของสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ โดยมูลค่าทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 2.23 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายจากภาคเกษตร 8,100 ล้านบาท ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม 1.08 หมื่นล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐาน (ถนน ทางรถไฟ สะพานและบ้านเรือน) 3,405 ล้านบาท ทำให้จีดีพีภาคใต้ลดลง 1.2% จากเดิมที่คาดว่าปีนี้จีดีพีภาคใต้จะขยายตัว 3.2% และส่งผลให้จีดีพีของประเทศลดลง 0.1%

โดยชี้แจงว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในภาคใต้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ภาคเกษตร ที่มีพื้นที่เกษตรเสียหายรวม 9.99 แสนไร่ กระทบเกษตรกรในพื้นที่ 4.04 แสนราย โดยเฉพาะความเสียหายของพื้นที่ปลูกยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจของภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด

“จากการสำรวจพบว่า ธุรกิจที่ ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม ผู้ประกอบการขนาดเล็กถึง 64.1% ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด หรือประมาณ 1.21 หมื่นล้านบาท ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้รับความเสียหายประมาณ 12.1% หรือประมาณ 2,300 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลกระทบทางอ้อมในเรื่องของการขนส่งโลจิสติกส์และซัพพลายเชน" นายธนวรรธน์ กล่าว

สำหรับสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งเยียวยา คือการฟื้นฟูพื้นที่เกษตร ทั้งในส่วนที่ยังไม่สำรวจว่ามีการยืนต้นตายหรือไม่ และส่วนที่มีการค้ำยันไว้ เพราะขณะนี้พบว่ามียางพาราบางส่วนที่เกิดภาวะช็อกไม่สามารถกรีดยางได้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 45-60 วัน

“ในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจภาคใต้อยู่ในภาวะช็อก การใช้จ่าย ค้าขายและการท่องเที่ยวจะซึมตัวลง เพราะยังมีความกังวลและเก็บเงินไว้ใช้สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนก่อน ดังนั้นหากรัฐบาลเร่งหามาตรการเยียวยาได้เร็ว ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจภาคใต้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และอาจดึงให้ จีดีพีภาคใต้กลับมาขยายตัวได้ถึง 2.5%” นายธนวรรธน์ กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่