เจ้าท่าเอาจริง! พรบ ใหม่ เอาผิด ผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ

กรมเจ้าท่า ประชาสัมพันธ์ พรบ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ วันนี้ (23 ก.พ. 2560)

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันพฤหัสบดี ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560, เวลา 14:20 น.

เจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำทั้งที่ไม่เคยได้รับอนุญาต หรือเคยได้รับอนุญาตแต่ปลูกสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่ 23 ก.พ. 2560 ต้องแจ้งต่อกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ตามแบบการแจ้ง ภายในวันที่ 22 มิ.ย. 2560

จากนั้นกรมเจ้าท่าจะแจ้งให้ทราบว่า ออกใบอนุญาตให้ได้หรือให้ทำการรื้อถอนภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแบบการแจ้ง หากไม่ทำการแจ้งต่อกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นตั้งอยู่ ภายในวันที่ 22 มิ.ย. 2560 กรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค จะมีหนังสือแจ้งให้ทำการรื้อถอน หรือแก้ไขสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน

นายสุรัฐ สิริไสยาสน์ ผอ. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต เปิดเผยว่า ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการจัดระเบียบเรียบร้อยทางสังคมและแก้ไขปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อทวงคืนทรัพย์สินของชาติให้กลับคืนมาเป็นของประชาชนคนไทยทุกคนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ได้มอบนโยบายให้กรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา นั่นคือ “สิ่งล่วงล้ำลำน้ำ” เพื่อควบคุมการปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดลงไปในแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ชายหาดสาธารณประโยชน์ นำกลับมาเป็นของส่วนรวมเพื่อประโยชน์ในการรักษาลำน้ำสำหรับการพาณิชยนาวี การเกษตรกรรม และการป้องกันอุทกภัย

โดยให้ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ที่บางครั้งอาจเกิดความเข้าใจไม่ถูกต้อง ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนโดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นการปลูกสร้างในที่ดินอันมีกรรมสิทธิ์ของตนแต่ที่ดินได้ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายสภาพเป็นที่ทางน้ำและไม่ได้มีการท้วงติงกันจนกลายเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นการปลูกสร้างล่วงล้ำเข้ามาในที่ทางน้ำเช่นกัน

ในขณะเดียวกันได้กำชับให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีความเหมาะสม สอดคล้องเป็นปัจจุบัน โดยบังคับใช้อย่างเข้มงวดและจริงจัง

กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้ทำการร่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2560 และจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 23 ก.พ. 2560 โดยในบทบัญญัติจะเพิ่มอัตราโทษของความผิดเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยผิดกฎหมายให้มากขึ้นจากเดิม ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวกับพี่น้องประชาชน

โดยเฉพาะผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ จำเป็นต้องรู้เพื่อจะได้ปฏิบัติหรือดำเนินการให้ถูกต้อง โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำทั้งที่ไม่เคยได้รับอนุญาต หรือเคยได้รับอนุญาตแต่ปลูกสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่ 23 ก.พ. 2560 ต้องแจ้งต่อกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ตามแบบการแจ้ง ภายในวันที่ 22 มิ.ย. 2560

จากนั้นกรมเจ้าท่าจะแจ้งให้ทราบว่า ออกใบอนุญาตให้ได้หรือให้ทำการรื้อถอนภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแบบการแจ้ง

กรณีออกใบอนุญาตให้แล้ว กรมเจ้าท่าจะแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองยื่นคำร้องเพื่อขอรับใบอนุญาต พร้อมชำระค่าปรับเพื่อการออกใบอนุญาตในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 500 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งกรมเจ้าท่าจะดำเนินการออกใบอนุญาตให้ภายใน 120 วันนับตั้งแต่วันที่รับเอกสารครบถ้วน

สำหรับกรณีไม่ได้รับการออกใบอนุญาต กรมเจ้าท่าจะออกคำสั่งให้ทำการรื้อถอน หรือแก้ไขสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้น โดยกำหนดระยะเวลาให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน

โดยกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำตั้งอยู่ แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อฟ้องศาล โดยมีโทษปรับตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 500 บาท แต่ไม่เกินตารางเมตรละ 10,000 บาท หากเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา กรมเจ้าท่าจะดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้น โดยค่าใช้จ่ายจะเป็นของเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างนั้น

หากเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างไม่เคยได้รับอนุญาต หรือเคยได้รับอนุญาตแต่ปลูกสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาต ก่อนวันที่ 23 ก.พ. 2560 ไม่ทำการแจ้งต่อกรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นตั้งอยู่ ภายในวันที่ 22 มิ.ย. 2560 กรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค จะมีหนังสือแจ้งให้ทำการรื้อถอน หรือแก้ไขสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน

โดยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อส่งฟ้องศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับเป็นตารางเมตรที่ล่วงล้ำน่านน้ำ ในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้จะต้องถูกปรับเป็นรายวันวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หากไม่ปฏิบัติตามหรือจนกว่ามีการปฏิบัติตามแล้วเสร็จ ส่วนผู้ประสงค์จะทำการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ต้องดำเนินการขออนุญาตก่อนดำเนินการ หากฝ่าฝืนปลูกสร้างก่อนได้รับอนุญาต หรือปลูกสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 2560 จะถูกดำเนินการเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่สำคัญ คือ ต้องมีลักษณะหรือสภาพไม่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือหรือการสัญจรทางน้ำ เมื่อปลูกสร้างแล้วจะไม่ทำให้ทางน้ำเปลี่ยนแปลง การใช้ประโยชน์จะไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องไม่รบกวนสิทธิต่าง ๆ ของผู้ที่อยู่ข้างเคียงตลอดจนผลประโยชน์ของมหาชนโดยส่วนรวม

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่า ได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินการกับผู้บุกรุกล่วงล้ำลำน้ำทั่วประเทศ ให้ลดจำนวนลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายใน 1 ปี โดยเฉพาะผู้ประกอบการต่างๆ ที่รุกล้ำเชิงพาณิชย์เมื่อกฎหมายที่ได้รับการปรับปรุงฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว ย่อมจะทำให้กลไกสำหรับการป้องกันปัญหาการรุกน่านน้ำของไทยมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเป็นการรักษาทรัพยากรน้ำ รักษาพื้นที่สาธารณะเพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดของประชาชนต่อไป สำหรับรายละเอียดการดำเนินการ ช่องทางและวิธีการแจ้งแนวทางปฏิบัติ ขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมเจ้าท่า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักกฎหมาย กรมเจ้าท่า โทร 0-2233-1311-8 ต่อ 252,381

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่