ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทำตามกฎท่องเที่ยว ฝ่าฝืนคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน

ภูเก็ต - สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติในการท่องเที่ยว เพื่อคุ้มครองปะการังพื้นที่ทะเลจังหวัดภูเก็ต ที่เกาะราชาใหญ่, แหลมพันวา และ เกาะไม้ท่อน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560, เวลา 12:00 น.

นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการ สบทช.6 เปิดเผยว่า ในปัจจุบันอุณหภูมิน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันมีค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ จากการสำรวจพบว่าปะกรังฟอกขาวใน 7 พื้นที่ ได้แก่ 1) เกาะมันใน จ.ระยอง 2) เกาะทะลุ 3) เกาะเหลื่อม จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4) เกาะไข่ จ.ชุมพร 5) เกาะราชาใหญ่ 6) แหลมพันวา 7) เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต

โดยสถานการณ์ปะการังที่ฟอกขาวจะมีแนวโน้มจะตายลงในเวลา 1 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิด พันธุกรรมของปะการัง สภาพแวดล้อม และการรบกวนจากมนุษย์ เช่นการทิ้งสมอเรือ การทิ้งขยะในทะเล การให้อาหารปลา การเยียบย่ำปะการัง เป็นต้น ซึ่งตามหลักทางวิชาการในช่วงที่วิกฤตของปะการังนี้ กิจกรรมเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อปะการัง ซึ่งหากปะการังตายลงจะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในทะเลไทย วิถีชีวิตชุมชนชายฝั่ง การท่องเที่ยวทางทะเล

ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงออกคำสั่งระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง บริเวณ 7 พื้นที่ เพื่อคุ้มครองปะการังพื้นที่ทะเลไทย 7 แห่ง ดังกล่าว

มี ข้อห้ามดังนี้ ห้ามจอดเรือโดยการทิ้งสมอเรือบริเวณแนวปะการัง, ห้ามทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล น้ำเสีย มลพิษ ลงในทะเล ที่อาจมีผลกระทบต่อคูณภาพน้ำทะเลอันจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อปะการัง, ห้ามขุดลอกร่องน้ำในแนวปะการัง, ห้ามค้นหา ล่อ จับ ได้มา เก็บสัตว์น้ำ หรือกระทำการใดๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อล่อ จับ ได้มา หรือเก็บสัตว์น้ำในแนวปะการัง, ห้ามการให้อาหารปลาและน้ำในแนวปะการัง, ห้ามการเดินเหยียบย่ำปะการัง, ห้ามการเก็บหรือทำลายปะการัง, ผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวดำน้ำลึก ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมักคุเทศก์ และจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักการเรียนการสอนดำน้ำสากล

สืบเนื่องจากคำสั่งดังกล่าว ขณะนี้มีตัวอย่างเคสที่กำลังเป็นที่จับตามองของสังคม โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวหญิงชาวรัสเซียถูกจับขณะกำลังให้ขนมปังปลาทะเลที่เกาะราชาใหญ่ (อ่านเพิ่มเติม คลิก) และต้องนอนห้องขัง สภ. ฉลอง ถึง 2 คืน เนื่องจากไม่มีเงินประกันจำนวน 1 แสนบาท (อ่านเพิ่มเติม คลิก

ทาง สบทช.6 ได้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ แจ้งรายละเอียด ข้อปฏิบัติ ตามมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง บริเวณ 7 พื้นที่ เพื่อคุ้มครองปะการังพื้นที่ทะเลไทย 7 แห่ง ไปติดตั้งในสถานที่ท่องเที่ยว ทั้ง 3แห่งของจังหวัดภูเก็ต คือ ที่ เกาะราชาใหญ่ , แหลมพันวา และ เกาะไม้ท่อน เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม ร.ต.ท. ศักรินทร์ แสงเจริญ พนักงานสอบสวน สภ. ฉลอง เจ้าของคดีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ยืนยันกับ ‘ข่าวภูเก็ต’ เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ว่า ทางด้านหัวหน้าคณะทัวร์หรือไกด์ชาวรัสเซียของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวนั้น ไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

ในขณะเดียวกันนางศิรวี วาเล๊าะ นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต กล่าวกับ ข่าวภูเก็ตว่า “ได้ติดตามเรื่องนี้แล้วและพบว่ามัคคุเทศก์ไม่ได้ถูกจับกุม ทางสำนักงานจึงดำเนินการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้ และยืนยันว่าอาชีพมัคคุเทศก์เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ชาวต่างชาติจะประกอบอาชีพไม่ได้อย่างแน่นอน”

(รายละเอียด คำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คลิก)

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่