ขอใช้พื้นที่ส่วนนี้ในการยกตัวอย่างสถานการณ์บีบหัวใจ เพื่อเตือนภัยผู้ที่ปฏิบัติตามกฎตามระเบียบจราจร ว่าพฤติกรรมเยี่ยงนี้ยังมีอยู่และโปรดระมัดระวัง
เมื่อหลายวันก่อนผู้เขียนได้ขับรถมาจากในเมือง บนถนนเทพกระษัตรีในพื้นที่เทศบาลตำบลรัษฎา พอใกล้ถึงแยกไฟแดงโรงไฟฟ้า (ก่อนจะถึงสถานีขนส่งภูเก็ตแห่งที่ 2) ซึ่งเป็นจุดที่ต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อขับไปยังเป้าหมาย ก็ได้ชะลอรถพร้อมกับให้สัญญาณไฟเลี้ยว เพื่อที่จะเลี้ยวซ้ายลงไปตามถนนประชาสามัคคี ตอนนั้นจำได้ว่าทางตรงถนนเทพกระษัตรีสัญญาณไฟจราจรเป็นสีเขียวสำหรับตรงไปได้ ในขณะที่รถบนถนนประชาสามัคคีจอดติดไฟแดงรอ อยู่เป็นแถวยาว เพื่อขึ้นมาบนถนนเทพกระษัตรี ซึ่งจากสภาพแล้วแน่นอนว่าการ “เลี้ยวซ้ายเมื่อปลอดภัย” ลงไปยังจุดหมายปลายทางของเรานั้นปลอดภัยแน่นอน
แต่ไม่ทันที่จะสิ้นความคิด สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าก็คือ มีรถ 4 ล้อคันหนึ่งขับสวนย้อนศรพุ่งขึ้นมายังถนนเทพกระษัตรี ความอึ้งบังเกิด... จิตใจทำด้วยอะไร? ถ้าเราไม่ชะลอรถเพื่อดูว่าปลอดภัยแน่นอนก่อนเลี้ยว จะเกิดอะไรขึ้น? แล้วถ้าชนกันเราก็ต้องเสียเวลาไปกับคนแบบนี้หรือ? ที่สำคัญคือหากคนที่อยู่ในตำแหน่งของเราเป็นรถจักรยานยนต์และเกิดชนกัน ความเสียหายอาจถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
และช่วงนี่ก็ใกล้เทศกาลสงกรานต์กันแล้ว ช่วงวันหยุดยาวซึ่งคาดว่าจะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต ขออย่าให้มีพฤติขับรถเสี่ยงภัย(ผู้อื่น) แบบนี้เกิดขึ้นอีกเลย เพราะแค่ความเห็นแก่ตัวความคิดสั้น ๆ ของคนคนเดียวมันอาจส่งผลเสียหายให้กับผู้อื่นเกินกว่าที่คุณคิดได้