คนขับเบนซ์หัวร้อนยกมือไหว้ยอมรับผิดขอโทษป้ายเขียว รับทราบข้อกล่าวหาหลายข้อ

ภูเก็ต - จากกรณีเพจโหดจัง จังหวัดภูเก็ต แชร์คลิปพร้อมโพสต์ข้อความถึงการทะเลาะวิวาทข่มขู่พร้อมเน้นย้ำเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลช่วยเหลือ เพราะจะส่งผลให้เสียภาพลักษณ์และชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 18 กันยายน 2566, เวลา 10:56 น.

โดยเมื่อเวลา 22.33 น. วันที่ 16 ก.ย. 66 ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายธีรภัทร ภูโอบ อายุ 38 ปี ที่อยู่หมู่ 8 จ.กาฬสินธุ์ ว่าเมื่อวันที่ 16 ก.ย. เวลาประมาณ 22.17 น. ขณะที่ผู้แจ้งขับขี่รถรถยนต์มาตามจากแยกนาคา เลี้ยวขวามุ่งหน้าแยกโรงเรียนดาราสมุทร เมื่อขับมาก่อนถึงทางลงอุโมงค์ผู้แจ้งได้เบี่ยงรถเข้าช่องทางเดินรถทางด้านซ้าย ขณะเดียวกันได้มีรถยนต์ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีเทา ทะเบียนภูเก็ต ที่ขับอยู่ด้านหลังรถของผู้แจ้งในทางช่องทางเดินรถด้านซ้าย ได้ขับรถยนต์ชนรถของผู้แจ้งและได้มาจอดรถขวางรถยนต์ของผู้แจ้งและคู่กรณีได้ลงมาจากรถ และพูดด้วยถ้อยคำหยายคายในทำนองว่าจะมาขอโทษอะไรจะเอาลูกปืนไหม จะรีบไปไหนนักหนา ซึ่งทางผู้แจ้งได้พูดขอโทษหลายครั้ง จากนั้นได้ต่อยผู้แจ้งไป 3 ครั้งที่ใบหน้าทำให้ผู้แจ้งได้รับบาดเจ็บ

และทางคู่กรณีได้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปทางพื้นที่ อ.กะทู้ เหตุเกิดบริเวณ หน้าโรงเรียนวิชิตสงคราม หมู่ที่ 4 ถนน เจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลวิชิต เบื้องต้นทางตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้มอตรวจสอบกล้องวงจรปิดในขณะเกิดเหตุ

ล่าสุดช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ย . ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต ได้เรียกกูกรณีทั้งสองฝ่ายมาพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเริ่มต้นได้สอบปากคำคู่กรณีก่อน

นายธีรภัทร เล่าว่า ตนรับลูกค้ามาจากตลาดนัดนาคาเพื่อจะไปส่งลูกค้าที่ป่าตอง เมื่อมาถึงก่อนจะเข้าอุโมงค์ ตนก็ชิดซ้ายซึ่งเป็นทางแคบ ตนขับรถเข้ามาตนสังเกตดูแล้วขับช้าทั้ง 2 คัน และสามารถเข้าไปได้ พอเข้าไปก็เปิดไฟไปสัญลักษณ์แบบขอโทษ จากนั้นคู่กรณีกดแตรยาวแบบไม่พอใจและขับขึ้น 2 เลนคู่กัน จากนั้นก็แซงขึ้นไปแล้วปาดหน้าแล้วชนตนเลย ชนเสร็จก็ลงมาตามที่ปรากฏในคลิปและชกที่หน้าตน 3 ครั้ง ซึ่งตนมีนักท่องเที่ยวอยู่ในรถนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส 2 คนอยู่ในรถด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวก็ตกใจเช่นเดียวกัน เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ จากนั้นเขาบอกให้ไปเจอกันโรงพัก ตนก็มาที่โรงพักทันทีพร้อมนักท่องเที่ยวมารอมาให้ปากคำ แต่เขาก็ไม่มา วันนี้ตำรวจนัดมา ตนก็มาให้ปากคำอีกครั้ง ตอนเกิดเหตุตนไม่ทราบและไม่เห็นว่าเขามีปืนหรือไม่ แต่ก็ต้องรักษาชีวิตและไม่อยากมีเรื่องขณะทำงานตรงนี้

นายธีรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนนี้ภาระมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบต้องหาเช้ากินค่ำ ถึงตนไม่ได้คนภูเก็ตแท้ ๆ แต่อยู่ที่นี่มาประมาณ 20 ปี เรียนจบที่นี่ ทำงานที่นี่เลย ซึ่งตอนเกิดเหตุตนรู้ดีว่าทำงานด้านแท็กซี่ไม่สามารถมีเรื่องกับใครได้ เพราะถ้ามีเรื่องกับใครอนาคตการทำงานต้องจบเลย ไม่สามารถทำงานด้านนี้ได้อีก

ทางด้านคู่กรณีคนขับรถเบนซ์ กล่าวว่า ตนประสงค์จะพูดคุยกันว่าต้องการค่าเยียวยาอะไรอย่างไร เพราะตนได้กลับไปคิดใหม่และความจริงตนไม่มีปืน ตนขอโทษและตนเป็นคนผิด ขอโทษที่กระทำลงไป ส่วนตัวไม่ได้รู้จักกันมาก่อน เป็นเหตุซึ่งหน้า ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ส่วนคดีก็ว่ากันตามกฎหมาย

ขณะที่ ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต ได้ตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีของคนขับแท็กซี่บริการ 3 ข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกาย, เมาแล้วขับ และข่มขู่ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวและตกใจ”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่