ครม.เคาะวีซ่า-ฟรี รับนักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน คือ มาตรการ ’ฟรีวีซ่า’ สำหรับนักท่องเที่ยว 2 ประเทศ คือ จีน และคาซัคสถาน สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันพฤหัสบดี ที่ 14 กันยายน 2566, เวลา 16:42 น.

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

รวมระยะเวลา 5 เดือน ครอบคลุมช่วง ’โกลเด้นวีค’ หรือช่วงหยุดยาวสำคัญของตลาดจีน 2 ช่วง ได้แก่ วันชาติจีน (1 ต.ค.) กับเทศกาลตรุษจีนในเดือน ก.พ.ปีหน้า โดยมาตรการดังกล่าวตั้งใจนำมากระตุ้นการเดินทางในช่วงวันชาติจีน ยาวไปจนถึงช่วงตรุษจีนในปีหน้า ส่วนนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน เป็นมาตรการที่นำมาใช้เพราะมองว่าคาซัคสถานเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถเพิ่มการเดินทางเข้าไทยได้

ฟรีวีซ่า คืออะไร

การที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีเพียงหนังสือเดินทางอย่างเดียวเพียงพอ ซึ่งข้อดี คือ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการทำวีซ่า และประหยัดเวลาในการทำเรื่องเข้าประเทศ โดยรายชื่อประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราหรือขอ วีซ่าในไทยเพื่อการท่องเที่ยวพำนักได้ไม่เกิน 30 วันนั้น มี 57 ประเทศ ได้แก่

1. อันดอร์รา
2. ออสเตรเลีย
3. ออสเตรีย
4. เบลเยียม
5. บาห์เรน
6. บรูไน
7. แคนาดา
8. เช็ก
9. เดนมาร์ก
10. เอสโตเนีย
11. ฟินแลนด์
12. ฝรั่งเศส
13. เยอรมนี
14. กรีซ
15. ฮังการี
16. ไอซ์แลนด์
17. อินโดนีเซีย
18. ไอร์แลนด์
19. อิสราเอล
20. อิตาลี
21. ญี่ปุ่น
22. คูเวต
23. ลัตเวีย
24. ลิกเตนสไตน์
25. ลิทัวเนีย
26. ลักเซมเบิร์ก
27. มาเลเซีย
28. มัลดีฟส์
29. มอริเชียส
30. โมนาโก
31. เนเธอร์แลนด์
32. นิวซีแลนด์
33. นอร์เวย์
34. โอมาน
35. ฟิลิปปินส์
36. โปแลนด์
37. โปรตุเกส
38. กาตาร์
39. ซานมารีโน
40. ซาอุดีอาระเบีย(และVoA)
41. สิงคโปร์
42. สโลวัก
43. สโลวีเนีย
44. สเปน
45. แอฟริกาใต้
46. สวีเดน
47. สวิตเซอร์แลนด์
48. ตุรกี
49. ยูเครน
50. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
51. สหราชอาณาจักร
52. สหรัฐฯ
53. บราซิล*
54. เกาหลีใต้*
55. เปรู*
56. ฮ่องกง**
57. เวียดนาม**
หมายเหตุ : ข้อมูลจาก กรมการกงสุล 8 กันยายน 2566

สำหรับนโยบายวีซ่า-ฟรีที่จะเกิดขึ้นนั้น นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และทำให้ตัวเลข GDP เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่ามาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาลจะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000 - 700,000 คน โดยจำนวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยปี 2566 รวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนี้จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม บางภาคส่วนได้แสดงความกังวลถึงการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่อาจเข้ามาจำนวนมากและด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ชี้แจงว่า สำหรับข้อห่วงใยปัญหาธุรกิจสีเทา ซึ่งกระทบกับภาพลักษณ์ด้านลบและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะมีการลงนามความร่วมมือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยและกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน โดยบริหารจัดการปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะทำงานเชิงรุกกับบูรณาการกับทุกกระทรวงและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไปสู่การเปลี่ยนแปลงการท่องเที่ยวครั้งใหญ่

เดินหน้ารีสตาร์ตภาคท่องเที่ยวไทย

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมครม. นัดแรกของรัฐบาลใหม่ นำทีมโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ระบุถึง “บัญญัติ 10 ประการ” รีสตาร์ตภาคการท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่ ให้เป็นเครื่องจักร “ควิกวิน” นำรายได้เข้าสู่ประเทศ หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ได้แก่

1. ออกมาตรการ ยกเว้นวีซ่า (ไม่ต้องขอวีซ่า) เป็นการชั่วคราว แก่นักท่องเที่ยว 2 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีนและคาซัคสถาน โดยตลาดจีนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปต่างประเทศ 154 ล้านคน ในตอนนั้นเศรษฐกิจจีนดี ไม่ช้าไม่นานจะทะยานไปแตะ 200 ล้านคนต่อปี ทำให้ประเทศไทยต้องเล็งประเทศจีนซึ่งมีศักยภาพสูงในการเดินทาง
2. ดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ
3. รัฐบาลจะดูแล สร้างความมั่นใจด้านการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยมีแผนทำภาพยนตร์ และหนังโฆษณา ด้วยการดึงดารา ศิลปิน นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ รวมถึงตัวแทนส่วนราชการของรัฐบาลจีน มาสร้างความมั่นใจผ่านภาพยนตร์ต่างๆ
4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลคู่ความร่วมมือ โดยท่านนายกฯจะนำคณะเดินทางไปเยือนประเทศเป้าหมาย เพื่อเชิญชวนคนมาเที่ยวไทย
5. กระตุ้นศักยภาพของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยการเพิ่มเที่ยวบิน โดยเฉพาะเที่ยวบินไป “เมืองรอง” ที่มีศักยภาพสูง เช่น หลายเมืองในประเทศจีน เป็นเมืองหลวงของมณฑลที่ไทยไม่เคยมีเที่ยวบินตรง (Direct Flight) ไปถึง ทั้งที่มีประชากรในเมืองนั้น ๆ จำนวน 30-50 ล้านคน โดยเมืองรองเหล่านี้เป็นตลาดเป้าหมาย “สถานีต่อไป” ที่ต้องไปให้ได้ เช่น นครฉางชุน เมืองเอกของมณฑลจี๋หลิน และเมืองเสิ่นหยาง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง เป็นต้น
6. เร่งพัฒนาสินค้าและการท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน มีการคุยกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวว่า ต้อง “บริการ ทุกระดับ ประทับใจ” สร้างความแตกต่าง
7. ส่งเสริมการจัด “อีเวนต์” ให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยมีจุดขาย ดึงคนมาเที่ยวตลอด 365 วัน เช่น ยกระดับงานเทศกาลลอยกระทง เทศกาลสงกรานต์ ให้เป็น “World Class Event” ไม่ใช่แค่อีเวนต์ระดับท้องถิ่นอีกต่อไป พร้อมสื่อสารถึงชาวต่างชาติให้ได้รับทราบ
8. ผู้ประกอบการทัวร์ (ทัวร์เอเยนต์) ขานรับแนวทาง พร้อมนำเสนอแพ็กเกจท่องเที่ยวและโปรโมชั่นดึงดูดใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ
9. เป้าหมายใหญของรัฐบาล คือจะส่งเสริมประเทศไทยเป็น “Entertainment Hub” หรือ ศูนย์กลางความบันเทิงแห่งเอเชีย
10. จากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความรู้สึกนักท่องเที่ยว และถูกส่งต่อแพร่กระจายในโลกออนไลน์ ทางรัฐบาลจะตั้งทีม “Online Crisis Management” เพื่อเข้าไปมอนิเตอร์ ชี้แจงในทันทีทันใด

นายกฯ ประชุมทุกส่วน วางแผนรับมือนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เป็นประธานการประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคง ได้แก่ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง

โดยมอบหมายให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทำงานเชิงรุกเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งคนไทย เพื่อรองรับ การบริหารสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวตามที่คาดการณ์ว่า ภายหลังจากการอนุญาตชั่วคราวให้ชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยแบบไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในตลาดจีน จนมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก

พร้อมย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเห็นแก่ความเดือดร้อนและปากท้องประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน พัฒนาเศรษฐกิจประเทศ และกระจายรายได้

- ปชส. จังหวัดภูเก็ต

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่