คู่รักจากเซี่ยงไฮ้ถูกจับขณะฮันนีมูนที่ภูเก็ต

ภูเก็ต - ตม.ภูเก็ตเชิญ 2 นักท่องเที่ยวมาสอบสวนหลังมีการแชร์ในไลน์ให้เฝ้าระวังบุคคลทั้งคู่กรณีใช้บัตรเครดิตปลอม จากนั้นได้ปล่อยตัวทั้งคู่ไป เนื่องจากไม่พบการกระทำผิด

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันพฤหัสบดี ที่ 27 เมษายน 2560, เวลา 18:03 น.

ภาพ ตม. ภูเก็ต

ภาพ ตม. ภูเก็ต

วันนี้ (27 เม.ย.) พ.ต.ท. เทียนชัย ชมภู สว.สส.ตม.ภูเก็ต กล่าวกับ ข่าวภูเก็ตว่า ตนได้นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ต ได้ตามสืบคดีนี้หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว ที่มีการแชร์ผ่านไลน์ เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ระบุชื่อและรูปถ่าย พร้อมข้อความว่า “เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพฯประสานมาว่ามีการใช้บัตรเครดิตปลอม ตอนนี้อยู่ในพื้นที่ภูเก็ต ฝากแชร์ให้เฝ้าระวังด้วย”

พ.ต.ท. เทียนชัย อธิบายเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนและสอบสวนทราบว่า เหตุเกิดจากผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบัตรเครดิต ซึ่งเป็นชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบบัญชี Agodaว่า บัญชีเขาได้มีการจองโรงแรมที่ภูเก็ตและได้ชำระเงินเป็นที่เรียบร้อย

จากนั้นผู้เสียหายจึงได้โทรมาประสานยังโรงแรมที่ภูเก็ตและได้พูดคุยว่าตนไม่ได้ทำการจองแต่อย่างใด และได้ขอข้อมูลของแขกที่จะเข้าพัก จากนั้นได้นำข้อมูลดังกล่าวไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นหลักฐาน

“เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด เนื่องจากนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คนยังไม่ได้เข้าพักที่โรงแรม และการกระทำผิดก็น่าจะเกิดที่ประเทศจีน” พ.ต.ท. เทียนชัย กล่าว

ทางชุดสืบได้สืบหาข้อมูลจนทราบว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 มีกำหนดเข้าพักที่โรงแรมระหว่างฮันนีมูน ในวันที่ 22-25 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้ติดตามจนพบตัว 2 นักท่องเที่ยว ที่ได้เข้าพักยังโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงทะเล จึงได้เชิญตัวของทั้งคู่มาสอบปากคำ พร้อมทั้งหาหลักฐานเพิ่มเติม

"สอบสวนไม่พบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการใช้บัตรเครดิตปลอมแต่อย่างใดจึงต้องปล่อยตัวไป ในทางกลับกันนักท่องเที่ยวทั้งคู่ดูเหมือนจะตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ด้วยซ้ำ” พ.ต.ท. เทียนชัย กล่าว

“ทั้งคู่ได้ให้เพื่อนที่อยู่ในประเทศจีนจองที่พักโดยการจ่ายเงินสด ผ่านเอเยนต์ที่ประเทศจีน และเอเยนต์ได้จองผ่าน www.Agoda.com ในบัญชีของคนอื่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบทสนทนาผ่านวีแชท และพบว่ามีการชำระเงินจริงค่าโรงแรมจริง และโรงแรมก็ได้รับชำระเงินครบถ้วน และตอนนี้ทาง Agoda ก็ได้คืนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหายเป็นที่เรียบร้อย” พ.ต.ท. เทียนชัย กล่าว

ทั้งนี้ พ.ต.ท. เทียนชัย กล่าวว่า นักท่องเที่ยวทั้งคู่ได้บินกลับประเทศไปแล้วเมื่อเช้ามืดของวันที่ 26 เม.ย. และได้แสดงความเป็นห่วงไปยังทั้งเจ้าของบัตรเครดิตและทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ เพราะขณะนี้ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่หลงเป็นเหยื่อและอีกกี่คนที่ยังไม่รู้ตัวว่าตนเองได้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่