ทางการจีนเปิดเผยตัวเลขการค้าเดือน ก.พ. ซึ่งพบว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 38.1% หรือสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2012 ในขณะที่การส่งออกลดลง 1.3% ส่งผลให้จีนประสบภาวะขาดดุลการค้าเป็น ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ที่ 9,150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.22 แสนล้านบาท)
ทั้งนี้ การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมากเป็น กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่นำโดยแร่เหล็ก ทองแดง น้ำมันดิบ และถ่านหิน เพื่อรองรับโครงการก่อสร้างต่างๆ ในจีนที่ขยายตัว ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2 เดือนมานี้
จูเลียน อีแวนส์ พริตชาร์ด จาก แคปิตอล อีโคโนมิกส์ กล่าวว่า ตัวเลขครั้งนี้สะท้อนถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็บ่งชี้ด้วยว่าดีมานด์ในจีนยังคงแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี การขาดดุลการค้าครั้งนี้ยังมีขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการตอบโต้หลายประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐโดยเฉพาะจีน ซึ่งสหรัฐกล่าวหาว่าจีนปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการส่งออก
ด้านญี่ปุ่นได้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 2016 ทบทวนใหม่ ซึ่งปรับตัวขึ้น 1.2% จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 1.0% เนื่องจากภาคเอกชนใช้จ่ายมากขึ้น