ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค. พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผกก.สภ.กระสัง ได้มอบหมายให้พ.ต.ท.ศุภกฤต คุณประทุม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กระสัง พร้อมร.ต.อ.ธนัช นครไธสง ร้อยเวรฯ สภ.กระสังนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นายควบคุมตัว นายวินัย มากราบขอขมาศพของ ภรรยาที่เสียชีวิตซึ่งตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ใน บ.เสม็ด ต.ชุมแสง อ.กระสัง ตามคำร้องขอของแม่และญาติผู้เสียชีวิต
ขณะที่นายวินัย ได้กราบขอขมาศพ ทั้งญาติและชาวบ้านที่มาร่วมงานศพนับร้อยคนต่างตะโกนสาปแช่งด้วยความโกรธแค้น เนื่องจากรับไม่ได้กับการกระทำที่โหดเหี้ยม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุในห้องนอน ซึ่งอยู่บนชั้นสองของบ้าน ซึ่งขณะทำแผนนายวินัยรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุใช้สว่านแทงภรรยาขณะนอนหลับ ก่อนจะลงมือทุบศีรษะ และใช้สว่านเจาะตามร่างกายหลายแผลจนเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผนในห้องนอนประมาณ 20 นาที
อย่างไรก็ตามขณะเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องมาขึ้นรถนั้น ได้ถูกญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านกรูเข้าประชาทัณฑ์จนเกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบคุมตัวผู้ต้องหากลับโรงพักเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปซึ่งเบื้องต้นก็ได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และกระทำความรุนแรงในครอบครัว
นางเกือง ประจัญบาน อายุ 52 ปี ป้าผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นใครที่กระทำโหดเหี้ยมทารุณได้ขนาดนี้ทั้งตนและญาติของผู้ตายไม่มีใครรับได้ หากปล่อยไว้ก็จะเป็นภัยต่อสังคมจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อให้ได้รับโทษอย่างสาสมหากเป็นไปได้ก็อยากเรียกร้องให้ประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน
นายไมตรี ทับพรมทอง อายุ 59 ปี ข้าราชการครูในหมู่บ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นใครกระทำได้โหดเหี้ยมทารุณมากขนาดนี้โดยเฉพาะเหตุการณ์นี้ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุเพราะฤทธิ์ของยาเสพติดจึงอยากให้ผู้รักษากฎหมายได้ดำเนินการลงโทษกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุดให้ตายตกไปตามกันทั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริงเอาจังกับผู้ค้าผู้เสพยาเสพติดด้วยเพราะถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง