ตร.แจงคลิปชายถือมีดพร้าจะทำร้ายคนขับแกร๊บ ไม่ใช่คนขับแท็กซี่เจ้าถิ่น

ภูเก็ต - ผกก.สภ.สาคู ชี้แจงชายถือมีดพร้าเดินเข้าไปจะทำร้ายชายคนขับรถรับจ้างแกร๊บ ประกอบอาชีพเป็นชาวประมงพื้นบ้าน ไม่ได้มีอาชีพขับรถรับจ้างหรือแท็กซี่แต่อย่างใด โดยทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจ หวาดกลัว โดยการขู่เข็ญ”

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 11 กรกฎาคม 2566, เวลา 21:09 น.

วันนี้ (11 ก.ค. 66) จากกรณีคนขับรถรับจ้างแกร๊บขับรถเข้าไปจอดรถที่สวนสาธารณะ บริเวณหาดในทอน ต.สาคู อ.ถลางจ.ภูเก็ต แล้วมีชายไม่ทราบชื่อเดินเข้ามาไล่ไม่ให้จอดรถในพื้นที่สวนสาธารณะ และได้มีปากเสียงกัน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะได้ขับมอเตอร์ไซค์ออกไป จากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวกลับมาพร้อมด้วยอาวุธมีดพร้า (รวมด้าม) ยาวประมาณ 1 เมตร เดินพุ่งเข้ามาเหมือนจะทำร้าย โดยในเบื้องต้นผู้เสียหายได้เดินทางเข้าไปที่ สภ.สาคู เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น                          

พ.ต.อ.สลาน ตันติศาสนกุล ผกก.สภ. สาคู กล่าวว่า ตนเองได้สั่งการให้ตำรวจชุดสอบสวนติดตามผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายสันติ ไรวัลทิพย์กุล อายุ 52 ปี ที่อยู่ ม.4 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ส่วนคนขับรถแกร๊บชื่อนายพรหมพิทักษ์ กองยอด อายุ 28 ปี ที่อยู่ ม.6 ต.สาคู อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยที่เกิดเหตุ สวนสาธารณะบ้านในทอน บ้านในทอน ม.4 ต.สาคู 

ทั้งนี้พฤติการณ์เนื่องด้วยตามวันเวลาดังกล่าว นายสันติกลับจากดูเรือของตนที่จอดไว้บริเวณหาดลายันในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ นายสันติจะลงไปจับปลาบริเวณหน้าในทอนใกล้กับจุดเกิดเหตุ เมื่อนายสันติกำลังเดินไปหน้าหาดในทอน ได้พบนายพรหมพิทักษ์เป็นผู้ขับแกร็บจอดอยู่ทางเดินลงหน้าหาดในทอน ภายในสวนสาธารณะบ้านในทอน นายสันติได้เข้าไปพูดคุยกับนายพรหมพิทักษ์ ซึ่งเป็นผู้ขับแกร็บว่า ให้ไปจอดที่อื่น เพราะแถวนี้มีคิวแท็กซี่ของคนพื้นที่อยู่ จึงทำให้มีปากเสียงกันตามคลิปวิดีโอที่ปรากฏและมีการแชร์ออกไป เนื่องจากนายสันติอยู่คนเดียวและฝั่งนายพรหมพิทักษ์อยู่ด้วยกัน 3 คน นายสันติจึงได้ไปหยิบมีดพร้าที่เก็บไว้ในรถสามล้อเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพมาถือไว้ ซึ่งไม่ได้มีเจตนาพกพาเพื่อใช้เป็นอาวุธหรือไว้เพื่อทำร้ายบุคคลอื่นแต่อย่างใด

หลังจากเกิดเหตุข้างต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู ได้นำผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมายังที่ทำการ สภ.สาคู เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา "ทำให้ผู้อื่นตกใจ หวาดกลัว โดยการขู่เข็ญ"ให้นายสันติทราบและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

พ.ต.อ.สลาน กล่าวต่ออีกว่า แนวการสืบสวนทราบว่า นายสันติประกอบอาชีพเป็นชาวประมงพื้นบ้าน ไม่ได้มีอาชีพขับรถรับจ้างหรือแท็กซี่แต่อย่างใด และเจ้าตัวขับรถยนต์ไม่เป็น แต่ในที่เกิดเหตุนายสันติกำลังจะเดินไปชายหาดเพื่อไปทอดแหหาปลา และพบเห็นว่านายพรหมพิทักษ์ซึ่งเป็นผู้ขับรถแกร๊บมาจอดบริเวณดังกล่าว ตนจึงได้เข้าไปว่ากล่าวนายพรหมพิทักษ์ ว่าที่ดังกล่าวมีคิวแท็กซี่อยู่แล้ว ไม่สมควรมาจอดบริเวณดังกล่าวและไล่ให้ไปจอดที่อื่น จึงเกิดการทะเลาะกัน และได้หยิบมีดพร้าที่เก็บไว้ในรถสามล้อที่ขับมา มาถือไว้ดังที่ปรากฏในคลิปตามข่าว

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่