ตลาดไอทีเจนบีรอเกิด จากติดแชตสู่โลกเอไอ

ญี่ปุ่น - อีก 3 ปีข้างหน้า ไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุสูงสุด ที่มีประชากรอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปต่อจำนวนประชากรทั้งหมดเกือบ 20% ทิศทางตลาดไอทีกับกลุ่มผู้สูงวัย จึงเป็นตลาดที่ไม่ควรมองข้าม ขณะนี้กลุ่มผู้สูงวัยไทยเริ่มมีพฤติกรรมการเล่นแชตผ่านทางไลน์ เริ่มใช้งานแอพพลิเคชั่นเช็กสุขภาพกันแล้ว

โพสต์ทูเดย์

วันเสาร์ ที่ 6 พฤษภาคม 2560, เวลา 15:00 น.

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เปิดเผยว่า พฤติกรรมกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) หรือเจนบี เกิดระหว่างปี 2489-2507 ปัจจุบันมีอายุ 51-69 ปี ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ภายในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่ม 40-50 ปี เริ่มซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์แพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซ อย่างเฟซบุ๊กและไลน์อย่างชัดเจน ซึ่งกลุ่มสินค้าที่กลุ่มผู้สูงอายุมองหาส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเพื่อสุขภาพตามมาด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลปัจจุบันพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ยังซื้อสินค้าทางอี-คอมเมิร์ซในสัดส่วน 15% เท่ากับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่โอกาสที่กลุ่มผู้สูงอายุซื้อของออนไลน์เติบโตขึ้น เพราะมีกำลังซื้อสินค้าสูง ราคาสินค้ามีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าน้อย ส่วนกลุ่มอายุ 20-40 ปี เป็นฐานลูกค้าในอี-คอมเมิร์ซสัดส่วน 70% การซื้อสินค้าความถี่สูงและราคามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ

ขณะที่กลุ่มสินค้าไอทีที่น่าจับตามอง และคาดว่าจะแจ้งเกิดในตลาดผู้สูงอายุภายใน 2-3 ปีข้างหน้า คือ ไอโอที หรืออินเทอร์เน็ตสำหรับสรรพสิ่ง เช่น สัตว์เลี้ยงไอที แต่กลุ่มสินค้าปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุจะเกิดหลังจาก 2-3 ปีอย่างแน่นอน

จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ ประธานบริหารสายงานผลิตภัณฑ์และการจัดการ บริษัท แอดไวซ์ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ร้านค้าปลีกไอทีแอดไวซ์ กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุจาก 600 บาท เป็น 1,200 บาท/เดือน ปัจจัยดังกล่าวมีโอกาสผลักดันให้กลุ่มผู้สูงอายุ 40-50 ปี ในตลาดต่างจังหวัดมีกำลังซื้อสูงขึ้นและเปลี่ยนสมาร์ทโฟนจากระดับราคา 3,500 บาท มาเป็นระดับราคา 5,000-6,000 บาท

“เบื้องต้นรอความชัดเจนกระทรวงการคลังมอบเบี้ยให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งมีแผนเจรจากับโอเปอเรเตอร์ทำโปรโมชั่นสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุร่วมกัน โดยกลุ่มผู้สูงอายุ 40-50 ปี มีแนวโน้มให้สมาร์ทโฟนเพื่อสำหรับการพูดคุยบนไลน์หรือเฟซบุ๊กกับลูกหลานหรือกลุ่มเพื่อนร่วมวัยเดียวกัน จึงต้องการฟีเจอร์ที่รองรับ แต่พฤติกรรมของคนเมือง เชื่อว่ามีโอกาสพัฒนาไปถึงระดับการเล่นอุปกรณ์ไอโอที” จักรกฤช กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่