ทช.ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวดำน้ำฟื้นฟูแนวปะการังเกาะไข่ใน 2 วันติดได้เกือบพันชิ้น

ภูเก็ต - วันที่ 23 ก.ค.60 นาย ไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยผลการดำเนินงานตามกิจกรรมปลูกและฟื้นฟูปะการังในพื้นแนวปะการังที่เสื่อมโทรมบริเวณเกาะไข่ใน ม.3 ต.พรุใน อ.เกาะยาว จังหวัดพังงา ในระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 24 กรกฎาคม 2560, เวลา 11:10 น.

“หลังจากที่ได้ร่วมกับผู้ประกอบการร้านดำน้ำเกาะไข่ ได้แก่ บริษัทซีแองเจิล บริษัทฟ้ารุ่ง ผู้ประกอบดำน้ำจากจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ ร้านสคูบ้าแคท ที่ส่งนักดำน้ำเข้าร่วม ทั้งอาสาสมัครนักดำน้ำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนกว่า 25 คน เข้าทำการปลูกปะการังโดยการเก็บเศษปะการังที่แตกหักเสียหายจากกิจกรรมการท่องเที่ยวกิจกรรมทางน้ำ และคลื่นลม ที่หล่นตามพื้นนำมาผูกติดบนก้อนหรือซากปะการังที่ตายแล้ว โดยใช้สายเคเบิ้ลไทร์ รัดยึดติดไว้กับกองปะการัง รวมทั้ง 2 วันสามารถติดได้กว่า 960 ชิ้น ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ที่จะมั่นใจได้ว่าจะเกิดความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังในบริเวณดังกล่าวในอนาคต แต่ทั้งนี้จะต้องมีการติดตามผลในระยะยาว ทั้งการติดตามหาอัตราการรอดตายและอัตตราการเจริญเติบโตตามแต่ละชนิดปะการังต่อไป”

นอกจากนี้ทางส่วนอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะมีการนำวิธีการเหล่านี้ไปขยายผลและส่งเสริมให้กลุ่มนักท่องเที่ยวดำน้ำ ไดฟ์มาสเตอร์ ครูสอนดำน้ำให้มีจิตสำนึกและจะต้องช่วยกันดำเนินการหากพบเจอเศษปะการังแตกหัก โดยจะต้องมีการช่วยให้ปะการังเหล่านนั้นรอดตาย เช่นเดียวกับการเก็บขยะเมื่อเจอใต้น้ำ ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการที่ดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และได้ผลยั่งยืน เมื่อช่วยกันคนละไม้ละมือ

ทั้งนี้ ผู้ที่จะทำการช่วยเหลือปะการังได้นั้นจะต้องมีการฝึกฝนเรียนรู้เทคนิคต่างๆเพิ่มเติม เนื่องจากจะต้องระมัดระวังไม่ให้ไปโดนปะการังข้างๆ เสียหายไปด้วย นักดำน้ำจะต้องปรับเรื่องการลอยตัวให้ดี

นาย ไพทูล กล่าวต่อว่า สำหรับที่เกาะไข่ใน เป็น 1 ใน 3 เกาะสวรรค์ของ ของ ต.พรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งประกอบด้วย เกาะไข่นุ้ย เกาะไข่ใน และเกาะไข่นอก เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวดำน้ำชมปะการัง เนื่องจากเป็นจุดที่มีความสวยงาม แต่การเดินทางมาเป็นจำนวนมากของนักท่องเที่ยวส่งผลทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของทั้ง 3 เกาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเริ่มได้รับผลกระทบ

หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ต้องออกคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในราชกิจจานุเบกษา เพื่อสงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู การแก้ไขหรือการบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บังคับใช้กฏหมายเพื่อปกป้องทรัพยากรอย่างเข้มงวด รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น เช่นเทศบาลตำบลพรุใน ซึ่งได้มีการจัดระเบียบบนเกาะฯ ขณะเดียวกันก็สร้างการมีส่วนร่วมทั้งภาคประชาชนชาวต.พรุในและผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทำโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรที่เสียหายและเสื่อมสภาพให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ทดแทนสิ่งที่เสียหายไป เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่