เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 กพ. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาฟังการไต่สวนพยานจำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมให้กำลังใจท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึง ความคืบหน้าการขอทุเลาคำสั่งทางปกครองในการยึดทรัพย์คดีจำนำข้าวต่อศาลปกครองว่า ขณะนี้ผู้ถูกฟ้องขอเลื่อนคำโต้แย้งให้การต่อศาล คงต้องรอหลังจากที่ผู้ถูกฟ้องแก้คำโต้แย้งแล้วเสร็จใน 30 วัน ซึ่งศาลปกครองคงจะนัดมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันตนก็ต้องทำคำชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลและได้ส่งคำชี้แจงไปแล้ว โดยรายละเอียดที่ส่งไปชี้แจงว่าคดียังอยู่ในการไต่สวนของคดีอาญาและศาลปกครองได้รับคำร้องไว้แล้ว แต่ขณะนี้กรมบังคับคดีจะต้องดำเนินตามคำสั่งมาตรา 44 ที่จะให้เข้ามายึดและอายัดทรัพย์ได้ทันที เรื่องนี้ทำให้ตนมีความลำบากมาก เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด ทั้งที่ยังไม่รู้ผลคดีอาญาก็จะเป็นการชี้นำ
เมื่อถามว่า คดีจำนำข้าวใกล้ถึงที่สิ้นสุด มั่นใจหรือไม่ว่าจะชนะคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ได้ทำอย่างเต็มที่ และพยานทุกปากที่นำมาสืบต่อหน้าศาลได้ทำอย่างเต็มที่ โดยชี้แจงทุกข้อกล่าวหา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจขององค์คณะ คงไม่สามารถพูดอะไรได้
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงกรณีทาง คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ได้ติดต่อมาเพื่อถามความเห็นหรือไม่ว่า คงต้องถามทางพรรค ขณะที่ส่วนตัวนั้นไม่มีใครติดต่อมาเพื่อถามความเห็น ก็ฟังตามหน้าสื่ออยู่
เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีกระแสข่าวเรื่องการลอบทำร้ายผู้นำ ในส่วนของตัวเองมีกระแสข่าวแบบนี้ด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วเมื่อก่อนของตนก็เคยได้ยินอยู่ แต่เราก็ไม่เห็นด้วย มีการนำเอาโซเชียลมีเดียมาใช้เป็นข่าวลือ เพื่อให้คนเกิดความตื่นตระหนก ทั้งนี้ตนคิดว่าคงไม่มีใครที่จะคิดทำร้ายกันจริงๆ หรอก วันนี้ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลทุกตารางนิ้วในประเทศไทยอยู่แล้ว ฝ่ายความมั่นคงคงไม่ปล่อยให้เกิด
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ประเทศไทยถูกสื่อนอกวิเคราะห์ว่า เป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการทำรัฐประหารเป็นอันดับ 2 ของโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็คงต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตามคงอยู่ที่รัฐบาลหรือทาง คสช.ที่จะให้ความมั่นใจว่าไม่ทำให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก
เมื่อถามว่า เชื่อว่าเมื่อความปรองดองเกิดขึ้นการทำรัฐประหารจะลดลงหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วเราไม่ควรจะเกิดรัฐประหาร ในอดีตที่ผ่านมาไม่ควรจะเกิดเลยด้วยซ้ำไป เพราะโลกในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จะรัฐประหารแบบไหนก็ตาม ไม่ควรจะเกิดขึ้น ก็ขอร้องทุกฝ่าย อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย และขอให้การรัฐประหารที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้าย