เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.60 นางประมูล และนายวัลลพ กุลนานันท์ สองปู่ย่าและญาติของเด็กหญิงพรทิพย์ หรือน้องรุ้ง กุลนานันท์ เหยื่อฆ่าถ่วงน้ำของมารดาและพ่อเลี้ยงเดินทางมายังห้องเช่าที่น้องรุ้งเคยพักอาศัยอยู่ เพื่อจุดธูปเชิญวิญญาณของน้องรุ้งกลับบ้านเกิด
ผู้เป็นน้าสาวได้ชี้จุดที่จำได้ดีว่าน้องเคยนอนอยู่กลางห้องเช่าซึ่งตลอดการทำพิธี ทุกคนต่างมีน้ำตาคลอเบ้า จากนั้นจึงเดินทางไปยังศาลาร้างท่าน้ำริมคลองสำโรงซึ่งเป็นจุดที่มารดาและพ่อเลี้ยงนำศพน้องรุ้งมามัดและถ่วงทิ้งลงคลองสำโรง โดยย่าได้อันเชิญและเรียกบอกวิญญาณน้องรุ้งว่ามารับกลับไปอยู่ด้วย
จากนั้น จึงเดินทางมายังสภ.บางเสาธงเพื่อติดต่อพนักงานสอบสวนขอเอกสารดำเนินการตามขั้นตอนรับศพน้องรุ้งไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนา
ต่อมา ปู่และย่าได้เดินไปหน้าห้องควบคุมแม่ของน้องรุ้งซึ่งยังถูกควบคุมในห้องขังของสภ.บางเสาธง โดยผู้เป็นย่าพยายามตะโกนเรียกเพื่อสอบถามความในใจว่าเหตุใดถึงลงมือฆ่าบุตรสาวได้ลงคอ แต่มารดาของน้องรุ้งกลับหลบหน้าไม่กล้าพบหน้า
นางประมูล เปิดเผยว่า น้องรุ้ง เดิมที่อยู่กับคุณพ่อและปู่ย่าที่อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เพราะพ่อและแม่แยกทางกัน ทำให้น้องรุ้งต้องอยู่กับพ่อตลอดมา กระทั่งให้หลังมา 2 ปี พ่อของน้องรุ้งเกิดล้มป่วยจนเสียชีวิตลง และน้องก็ยังอยู่กับปู่และย่ามาตลอดจนกะทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา มารดาเดินทางมาขอรับน้องรุ้งไปอยู่ด้วยที่จังหวัดร้อยเอ็ด รับปากว่าจะเลี้ยงดูอย่างดี และเห็นว่าเป็นแม่ลูกกันก็ไม่เอะใจอะไรและไม่คาดคิดว่าจะเป็นการปล่อยหลานให้มาเจอความตาย