ผับบาร์ลุ้นต่อขยายเวลาปิดตี 4 อนุทินกำชับ ‘ประเทศไทยปลอดภัย’ รองรับฤดูท่องเที่ยว

ภูเก็ต – เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 4 พฤศจิกายน 2566, เวลา 09:00 น.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่ถนนบางลาเมื่อเดือนสิงหาคม โดยมี นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตองให้การต้อนรับ / แฟ้มภาพ: ปชส. จังหวัดภูเก็ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะลงพื้นที่ถนนบางลาเมื่อเดือนสิงหาคม โดยมี นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตองให้การต้อนรับ / แฟ้มภาพ: ปชส. จังหวัดภูเก็ต

โดยมี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน พร้อมด้วย ผวจ.กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ พังงา ตรัง ระนอง และสตูล) ภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงพื้นที่บางลาป่าตองของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ส.ค. การมาในครั้งนั้นทางผู้ประกอบการก็ได้ผลักดันให้มีการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงออกไปถึง 04.00 น. ซึ่งยังต้องมีการพูดคุยในส่วนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนจะมีคำสั่งที่แน่ชัดต่อไป โดยทางผู้ประกอบการก็ยังต้องลุ้นกันต่อว่าการขยายเวลาปิดร้านตีสี่ เพื่อต่อยอดฟื้นธุรกิจและกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นจะกลายเป็น“ของขวัญปีใหม่” จากภาครัฐได้จริงหรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้ง 6 จังหวัด ถือเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีข้อได้เปรียบและโดดเด่นในเรื่องการท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะภูเก็ตและกระบี่

“สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรเราจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในเมืองไทยให้มากขึ้น นอกเหนือจากข้อได้เปรียบที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมีความสนใจจังหวัดฝั่งอันดามันอยู่ก่อนแล้ว เราต้องสร้างความมั่นใจว่า บ้านเมืองนี้ปลอดภัย เมื่อเดินทางมาแล้วจะมีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว”

ขยายเวลาถึงตี 4

“ส่วนเรื่องแนวคิดการขยายเวลาให้บริการสถานบริการและสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการในพื้นที่ท่องเที่ยวนั้น กรมการปกครองในฐานะส่วนราชการที่รับผิดชอบอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนการแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่งจะต้องรับฟังความคิดเห็นด้วยการทำประชาพิจารณ์ของพื้นที่ที่จะดำเนินการ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ใช้กลไกทั้งท้องที่และท้องถิ่น ทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการขยายเวลาการให้บริการของสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ”

“ซึ่งในขณะที่ยังไม่ได้รับการขยายเวลานั้น ขอให้ผู้ประกอบการได้วางแผนในการเตรียมการประกอบธุรกิจ พี่น้องประชาชนก็เตรียมการในการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคราชการซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมายก็จะต้องวางแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยและเสริมสร้างความปลอดภัย เพื่อที่จะให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการมีการปฏิบัติตามกฎหมาย บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย เกิดความผาสุกในสังคม นักท่องเที่ยวมีความสุข ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ถูกลักขโมยสิ่งของ ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในประเทศไทย” นายอนุทินฯ กล่าว

ในขณะเดียวกันทางด้านของผู้ประกอบการสถานบันเทิงนั้น ยินดีให้การสนับสนุนและพร้อมเต็มที่ในการรองรับการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจนถึงเวลา 04.00 น. และเรียกร้องให้ภาครัฐมองถึง”ความเป็นจริงของบริบทการเข้าใช้บริการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งยืนยันคำเดิมว่า การขยายเวลาให้บริการสถานบันเทิงไปจนถึงเวลา 4 นาฬิกานั้นจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภูเก็ตและประเทศไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอีกด้วย

นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตอง ประธานพิโซน่ากรุ๊ป และผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาป่าตอง เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต เกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุดหลังจากการเข้าประชุมร่วมกับคณะกรรมการในการแก้ไขปัญหาเรื่องสถานบันเทิงและการเรียกรับผลประโยชน์ว่าได้มีการนำเสนองานวิจัยของป่าตองเรื่องเปิดสถานบริการจนถึง 04.00 น.

“แน่นอนว่ามันจะช่วยในส่วนของเศรษฐกิจ เมื่อมีการเพิ่มศักยภาพของเวลาเราก็จะมีเวลามากขึ้น เสียภาษีมากขึ้น ประชาชนมีการจ้างงานมากขึ้น มีความมั่นใจทางด้านการลงทุนและเศรษฐกิจมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลก็มีโปรเจคในการขยายเวลานำร่องจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนตัวเชื่อว่าจากเดิมมีรายได้ขยับตัวจากเดิม 2 ล้านล้าน อาจจะเป็น 4 ล้านล้านหรือ 6 ล้านล้านต่อไปในอนาคต ซึ่งเราก็ต้องร่วมไม้ร่วมมือกันเพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดีต่อไป”

ความปลอดภัย

“ในส่วนของเรื่องสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ กรณีสถานบันเทิงปิดเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง นักท่องเที่ยวก็จะไปซื้อเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อแล้วก็ไปนั่งกินดื่มกันที่ชายหาด ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดอาชญากรรม เสี่ยงต่อการจมน้ำ ส่งผลกระทบต่อการป้องกันและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ เราอยากให้เป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมของป่าตองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก”

ทางด้าน นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส. ภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวร่วมกับ นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตอง โดยเน้นย้ำว่า การเปิดสถานบริการถึงตีสี่นั้นเป็นสิ่งจำเป็นและเหมาะสมอย่างยิ่ง เพื่อการจ้างงาน รายได้และเศรษฐกิจในพื้นที่ เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวป่าตองส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาติ และเวลาปิดสถานบริการในปัจจุบันก็ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง

“นักท่องเที่ยวที่เข้ามาส่วนใหญ่ในช่วงเช้าจะไปเที่ยวเกาะหรือชายหาด ช่วงเย็นกลับไปอาบน้ำที่โรงแรม จากนั้นก็ออกไปดินเนอร์ กว่าจะกินข้าวเสร็จก็ช่วงเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาที่เขาจะได้เที่ยวสถานบันเทิง แต่กลับกลายเป็นว่าข้อกฎหมายของสถานบันเทิงมันถูกจำกัดด้วยเพียงแค่ตีหนึ่งก็จะทำให้มีเวลาในการจ่ายน้อยลง ซึ่งเราต้องแก้ไขกฎหมายนี้เพื่อเศรษฐกิจของเมืองและการจ้างงานที่จะเกิดขึ้น รวมถึงกลุ่มผู้ให้บริการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ แม่ค้า ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้กับกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย” นายเฉลิมพงศ์ กล่าว

“ตอนนี้ทั้งในส่วนของรัฐบาลและฝ่ายค้านมีการโครงการนำร่องกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต เรามีการพูดถึงข้อของกฎหมายที่จะต้องแก้เพื่อเปิดไปจนถึงตีสี่ และเป็นโปรเจคที่เราจะทดลองในช่วงหลังปีใหม่ เพราะคณะกรรมาธิการต้องการที่จะแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ โดยไม่ให้เกิดข้อครหา คอรัปชัน หรือการเรียกรับสินบนในภายภาคหน้า นี่คือสิ่งที่เราต้องแก้อย่างยั่งยืน เพื่อให้ผู้ประกอบการรู้สึกสบายใจและการความมั่นใจในการลงทุน เมื่อเรารู้กรอบเวลาว่าสถานบันเทิงปิดตีสี่ เราก็สามารถจ้างศิลปินดัง ๆ ระดับโลกหรือวางคิวศิลปินระดับโลกมาแสดงในสถานบันเทิงได้ และเกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวมากขึ้น”

ขอให้มองความเป็นจริง

นายวีรวิชญ์ กล่าวว่า ทางชมรมมีการขับเคลื่อนในเรื่องการเปิดถึงตีสี่มามากกว่า 20 ปี และยังได้ผลักดันในส่วนของโซนนิ่ง เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและขับเคลื่อนการจ้างงาน แทนที่จะยึดตามกฎหมายเดิมที่กำหนดให้ปิดตีหนึ่งแต่ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว

“เมื่อสถานบันเทิงปิดตีสี่มันจะเอื้อถึงเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นสิ่งสำคัญคือการท่องเที่ยวไปได้ เมืองไปได้ เศรษฐกิจไปได้ บางทีเราก็ไม่ต้องโลกสวย วันนี้เราต้องการทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง เราจึงเรียกร้องให้เปิดถึงตีสี่ เพราะมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มแน่นอน จากเดิมที่ปิดกันตีหนึ่งตีสองถ้าเราขยายมาอีกสองชั่วโมง เชื่อว่าของเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาจับจ่ายจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%” นายวีรวิชญ์ กล่าว

“หากปิดตีหนึ่งต่อไปถามว่าตุ๊กตุ๊กและพนักงานต่าง ๆ จะเอาเงินจากไหนไปเลี้ยงครอบครัว เราต้องอยู่กับความเป็นจริงให้ได้ ที่ผ่านมาหลาย ๆ รัฐบาลผมเรียกร้องมาโดยตลอด รัฐบาลล่าสุดเองนายกฯ ได้ลงพื้นที่ป่าตองแล้ว ผมเชื่อว่าคราวนี้น่าจะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด เชื่อว่าตอนนี้หน่วยงานต่าง ๆ เข้าใจบริบทของเรามากขึ้น หลังจากที่เราผ่านวิกฤตการณ์โควิดมา เข้าใจว่าตอนนี้เราพยายามที่จะขับเคลื่อนในเศรษฐกิจให้ได้ เพราะถ้าเขาเข้าใจเรา เราก็เข้าใจเขาเท่านั้นเอง”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่