เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 66 เวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมมุขหลังชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเตรียมจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2566 เพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมี นางจันทนา สิทธิพันธ์ วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต, นายกิตติวงค์ จันทร์สัทธรรม นายกสมาคมอ๊ามภูเก็ต, นายประเสริฐ ฟักทองผล ประธานชมรมอ๊ามภูเก็ต-อันดามัน หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐเอกชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสมาคมอ๊ามภูเก็ต ชมรมอ๊ามภูเก็ต - อันดามัน องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต และหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 15- 23 ตุลาคม 2566 จำนวน 9 วัน (ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน) โดยมีจุดประสงค์เพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่เก่าแก่ของชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาเป็นประจำทุกปี โดยการละเว้น การเบียดเบียนสิ่งมีชีวิต รักษาศีล สำรวมกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ถือเป็นการเจริญเมตตากรุณา นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดจัดกิจกรรมในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วยการจัดขบวนแห่เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยปล่อยขบวนแห่ จากสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี (ลานมังกร) ไปสู่เวทีกลางสะพานหินในวันที่ 16 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และจัดพิธีส่งเก๊ง (สวดมนต์) เพื่อถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณเวทีกลางสะพานหิน ในวันที่ 16 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ อ๊าม (ศาลเจ้า) ต่าง ๆ ได้มีการประกอบพิธีกรรม ระหว่างวันที่ 15- 23 ต.ค. อาทิ พิธีโข้กุ้น (พิธีเลี้ยงอาหารทหารที่รักษาอ๊าม) พิธีโก้ยห่าน (พิธีสะเดาะเคราะห์) พิธีอิ้วเก้ง (พิธีแห่พระรอบตัวเมืองภูเก็ต) เป็นต้น
ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ พุทธศักราช 2561 โอกาสนี้จึงขอเชิญร่วมสืบสานงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 15- 23 ตุลาคม 2566 บริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ โดยร่วมแต่งกายด้วยชุดสีขาว เพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม และส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาของงานประเพณีฯ
