วันนี้ (21 เม.ย. 60) เวลาประมาณ 10.00 น. นายยุทธพงษ์ มดแสง และนายกิตติ วินิจสุมานนท์ ซึ่งเป็นตัวเเทนลูกบ้าน โครงการพนาสนธิ์เรสซิเด้นท์ภูเก็ต (แม็คโคร) หมู่5 ถนน วิชิตสงคราม ต.วิชิต อ.เมือง จำนวน 397 ราย พร้อมสมาชิกประมาณ 30 คน เข้าพบ นางชญาทิตย์ จิตหลัง หัวหน้าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ต ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและเรียกร้องให้ผู้บริหารโครงการพนาสนธิ์เร่งดำเนินการแก้ปัญหาสาธารณูปโภคภายในโครงการทั้ง ไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบน้ำ ปัญหาการจัดเก็บขยะ และอื่นๆ โดยขอให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อให้มีการส่งมอบสาธารณูปโภคให้แก่ท้องถิ่น ตามข้อเรียกร้องของลูกบ้าน
นายยุทธพงษ์ กล่าวว่า เหตุผลที่เดินทางมาเนื่องจากประสบปัญหาความไม่สะดวกหลายอย่างทั้ง เรื่องไฟฟ้าไฟส่องสว่าง รปภ. เรื่องขยะ และเรื่องการเก็บค่าใช้จ่าย ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นระยะเวลาหลายปี ประเด็นหลักๆอยากให้ทางพนาสนธิ์ดำเนินการให้โครงการไปอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลวิชิตให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมด
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมกับโครงการประมาณ 3 - 4 ครั้งเพื่อแก้ปัญหา และทุกครั้งทางโครงการก็รับปากว่าจะดำเนินการให้ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งพบว่ายังไม่มีการดำเนินการอะไรจึงต้องมาร้องเรียนจังหวัด
ด้านนายกิตติ กล่าวว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมานั้น ทราบว่าทางโครงการพนาสนธิ์ได้ค่างจ่ายค่าไฟฟ้าส่วนของปั๊ม ซึ่งค้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม รวมประมาณ 2 หมื่นบาท ทำให้การไฟฟ้าต้องมาแจ้งว่าหากไม่มีการจ่ายเงินส่วนที่ค้างชำระ จะตัดมิเตอร์ไป ลูกบ้านต้องรวบรวมเงินหลังละประมาณ 150 บาทเพื่อช่วยกันจ่าย จึงรอดตัวไป 1 ครั้ง และทางลูกบ้านพยายามพูดคุยผลักดันให้โครงการส่งมอบให้การปะปา เพื่อให้รับผิดชอบเรื่องค่าไฟฟ้าและให้มีการหักค่าไฟฟ้าในร่วมในบิลของปะปาแทน เพื่อลดภาระของโครงการ แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการ กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การไฟฟ้ามาแจ้งอีกว่าจะมีการตัดเป็นรอบที่ 2 เนื่องจากโครงการค้างค่าไฟฟ้ารอบใหม่ ทางผู้อาศัยจึงทนไม่ไหวรวมตัวกันทำป้ายไวนิล ข้อความรุนแรง เช่น "พนาสนธิ์ขี้โกง อย่าซื้อ เราเตือนคุณแล้ว" และนำไปติดประจานทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อให้คนทั่วไปทราบและมีการนำไปลงในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก
กระทั่งทางด้านโครงการต้องมาขอเจรจาและจ่ายเงินที่ค้างจ่ายการไฟฟ้าจำนวน 2 หมื่นบาทและขอปลดป้ายออก อย่างไรก็ตามเชื่อว่า หากโครงการเร่งดำเนินการและส่งมอบให้ท้องถิ่นดูแลได้รวดเร็วจะสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด
ด้านนางชญาทิตย์ ได้ให้ผู้แทนเขียนคำร้องไว้ ก่อนจะให้ผู้แทนกลับไปทำหนังสือรับมอบอำนาจจากลูกบ้านทั้งหมดตามขั้นตอนกฎหมาย จากนั้นประสานไปยังหัวหน้างานจัดสรร สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ตัวแทนไปพบว่าติดขัดปัญหาในเรื่องใดที่โครงการไม่สามารถโอนเป็นให้ท้องถิ่นดูแลได้
ในส่วนของศูนย์ดำรงธรรมเองก็จะแก้ไขปัญหาด้วยการประสานไปยังผู้รับผิดชอบของโครงการเพื่อให้มาชี้แจงปัญหา โดยจะให้มีการพูดคุยเจรจากันก่อน
นางชญาทิตย์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลของศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการพนาสนธิ์หลายแห่งในจังหวัด ที่เดินทางมาเขียนคำร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือ แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วย กลุ่มที่ทำสัญญาจองซื้อบ้าน/คอนโดมิเนี่ยมโครงการ กลุ่มที่ซื้อแล้วแต่สร้างไม่เสร็จ และกลุ่มที่สร้างเสร็จและเข้าอยู่อาศัยแล้วแต่มีปัญหา
โดยเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ตัวแทน 10 คน พนาสนธิ์ปาร์ควิว 3 บ้านลิพอน อ.ถลาง ซึ่งรับมอบอำนาจจากผู้เสียหายประมาณ380 คนมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ไปแล้ว รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการจองบ้านโครงการของพนาสนธิ์ ปาร์ควิลล์ เกาะสิเหร่อีกจำนวนหนึ่งมายืนหนังสือเช่นกัน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต แจ้งว่า ทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ.ส่วนกลางได้ทราบเรื่องแล้ว พร้อมขอให้ทางภูเก็ตรวบรวมข้อมูลรายละเอียดปัญหา และจำนวนผู้เสียหายเสนอไปยังส่วนกลางเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งอาจจะให้ส่วนกลางเป็นผู้รับเรื่องทั้งหมด หากมีผู้เสียหายหรือผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
