สหรัฐทวงหนี้กัมพูชา หมื่นล้านบาทสมัยสงครามเวียดนาม

สหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้กัมพูชาชำระหนี้ที่กู้ยืมไปตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม ท่ามกลางเสียงประณามว่าไร้มนุษยธรรม

โพสต์ทูเดย์

วันเสาร์ ที่ 18 มีนาคม 2560, เวลา 12:00 น.

สหรัฐอเมริกาต้องการให้กัมพูชาจ่ายหนี้สงครามที่ค้างชำระอยู่ราว 500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 17,000 ล้านบาท สร้างความโกรธเกี้ยว และไม่พอใจให้แก่ชาวกัมพูชาจำนวนมาก

กัมพูชากู้ยืมเงินจากสหรัฐเป็นจำนวนเงิน 274 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในปี 1970 ซึ่งทางสหรัฐระบุว่าเป็นการกู้ยืมไปเพื่อหาซื้ออาหาร และอุปกรณ์ แต่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่าเงินจำนวนดังกล่าวนั้น เป็นเงินสกปรก และนำไปใช้สำหรับการจัดหาอาวุธ

นายกรัฐมนตรีฮุน เซนกล่าวว่า สหรัฐเองไม่มีสิทธิที่จะมาทวงเงินคืน จากการกระทำที่ทำไว้กับกัมพูชา ด้วยตลอดการต่อสู้ในสงครามเวียดนามมีระเบิดมากมากถูกทิ้งลงในกัมพูชา "สหรัฐทิ้งปัญหาไว้ให้แก่ประเทศของเรา และตอนนี้ยังจะมาทวงเงินเรา" เขากล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว "กัมพูชาเองไม่ได้ทวงให้สหรัฐจ่ายชดเชยสำหรับการทำลายล้าง และความเสียหายที่เกิดขึ้น เราแค่ต้องการให้สหรัฐรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองก่อ"

ทั้งนี้ทางกัมพูชาได้เรียกร้องไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ให้ยกเลิกหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามทั้งหมด แต่ทางทำเนียบขาวกลับเพิกเฉย

ในช่วงปี 1972 - 1974 กระทรวงการเกษตรสหรัฐอนุมัติให้กัมพูชากู้ยืมเงินจำนวน 274 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในการจัดหาฝ้าย, ข้าวสาร และแป้งสาลี ในฐานะพันธมิตรผู้สนับสนุนกัมพูชา ในการต่อสู้กับการแพร่กระจายของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง สหรัฐได้ทิ้งระเบิดกว่า 500,000 ลูก ลงในหลายภูมิภาคของกัมพูชา
Elizabeth Becker นักข่าวผู้รายงานเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา เมื่อทศวรรษ 1970 ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราว่า การที่สหรัฐออกมาทวงเงินคืนเช่นนี้ เป็นอะไรที่ผิดศีลธรรม "มันจะง่ายกว่าถ้าพวกเขาลืมเรื่องหนี้ไปซะ และให้การสนับสนุนอื่นๆ เช่นการศึกษา แบบเดียวกับที่พวกเขาทำให้กับเวียดนาม" เธอกล่าว

"การแทรกแซงของสหรัฐในกัมพูชาเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงอย่างมากในยุคนั้น พวกเขาดึงกัมพูชาเข้าร่วมสงครามด้วยความหวังว่าจะคว้าชัยชนะมาได้ และดูผลกระทบที่เกิดขึ้น แม้จะผ่านมากว่า 50 ปีแล้ว แต่เขมรแดงยังคงเป็นฝันร้ายสำหรับชาวกัมพูชาทุกคน"

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่