เมื่อวันที่ 6 เม.ย.67 เวลาประมาณ 17.20 น. พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8, พ.ต.ท.สุริยา รัตนพันธ์ สว.กก.สส.3 บก.สส.8 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 และชุดสืบ ภ.จว.เพชรบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวนาย อารีย์ ภัทรโชคชัย อายุ 27 ปี ที่อยู่ หมู่ 10 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี และ นางสาว มัลลิกา ชุมรักษา อายุ 26 ปี ที่อยู่ หมู่ 7 ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมบริเวณร้านขายโทรศัพท์มือถือภายในห้างใหญ่ สาขาภูเก็ต ตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยขณะเข้าจับกุมชุดสืบสวนได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรีให้นายอารีย์และ น.ส.มัลลิกา เพื่อยืนยันตัวตนตามหมายจับ จากนั้นได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองภูเก็ต ก่อนส่งตัวให้กับชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เพชรบุรี นำกลับไปขยายผล
ทั้งนี้ นายอารีย์และน.ส.มัลลิกาได้ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือและไอแพดจากร้านฟ้าโฟนเพชรบุรี หมู่ 1 ต.บ้านหม้อ จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 3 เม.ย.67 และหลบหนีออกจากพื้นที่ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. จากนั้นชุดสืบสวนพบว่า นายอารีย์ และ น.ส.มัลลิกาได้นำของกลางดังกล่าว เช่น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟนรุ่นต่าง ๆ ไอแพดรุ่นต่าง ๆ รวมไปถึงปากการุ่นต่าง ๆ รวม 45 รายการ มูลค่านับล้านบาท จากนั้นได้นำมาจำหน่ายในจังหวัดภูเก็ต
ต่อมาวันที่ 6 เม.ย. ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายอารีย์และน.ส.มัลลิกา กำลังนำของกลางดังกล่าวมาจำหน่ายที่ร้านโทรศัพท์มือถือ ภายในห้าง ต.รัษฎา อ.เมือง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ และเมื่อไปถึงพบ น.ส.มัลลิกา และนายอารีย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร” ลงวันที่ 6 เม.ย. 67 เบื้องต้นนายอารีย์และ น.ส.มัลลิกายอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน
จากนั้นได้ตรวจยึดของกลางที่อยู่ในกระเป๋าถือที่ น.ส.มัลลิกาสะพายอยู่ขณะจับกุม ชุดสืบสวนได้ไปตรวจสอบของกลางอีกจำนวนหนึ่ง ที่เก็บซุกซ่อนเอาไว้ในภายในรถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์ 5 สีน้ำเงิน ทะเบียนกทม.ที่ผู้ต้องหาเช่ามา ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าห้าง โดยของกลางที่ตรวจยึดได้มีมูลค่านับล้านบาท
เบื้องต้นนายอารีย์และ น.ส.มัลลิกาให้การสารภาพว่า ต้องการหาเงินไปใช้หนี้นอกระบบที่กู้ยืมมานับล้านบาท จีงต้องก่อเหตุดังกล่าว แต่มาถูกจับกุมตัวในที่สุด และนำตัวผู้ต้องหาส่ง พงส.สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป