จากกรณีมีหนุ่มโพสต์ดราม่าในภูเก็ต รับจ้างกินเจแทน พร้อมระบุว่า “อาชีพใหม่? รับจ้างกินเจแทน ไม่มีเวลากินเอง แค่จ่ายเงินก็อิ่มบุญ” ชาวภูเก็ตถกสนั่น แถมยังเอาภาพศาลเจ้าดังที่คนภูเก็ตนับถือไปใช้โดยไม่เกี่ยวข้อง!!
อีกหนึ่งเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงในโลกออนไลน์ เป็นเรื่องดราม่าการรับจ้างกินเจแทน โดย นายกิตติวงค์ จันทร์สัทธรรม นายกสมาคมอ๊ามภูเก็ต ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กชื่อว่า ฮกซิ่ว ภูเก็ต - 曾福壽 โดยได้เปิดประเด็นดังกล่าว ระบุว่า หนุ่มภูเก็ตคนหนึ่งได้โพสต์ในโซเชียลมีเดีย ว่า “อยากกินเจ แต่ไม่สะดวกกิน กินไม่ไหว กินไม่ครบ นึกถึงเรา รับงานกินเจ (แทน)
- กินเจล้างท้องครบ 3 มื้อ 300 บาท
- กินเจครบ 3 วัน 500 บาท
- กินเจครบ 5 วัน 700 บาท
- กินเจครบ 7 วัน 1,000 บาท
- กินเจครบ 9 วัน 1,200 บาท
- กินเจครบ 10 วัน และขอพรเจ้า 1,500 บาท
- กินเจครบ 10 วัน และสวดมนต์ 2,000 บาท
หมายเหตุ : เพิ่มการไปไหว้เจ้าวันธรรมดา 500 บาท/วันตั๋วเจคี้ 1,000 บาท“
ประเด็นเรื่องการรับจ้างกินเจอแทนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม การทำบุญไม่น่าจะทำแทนกันได้ แต่ขณะที่ชาวเน็ตอีกด้านก็มองว่าเป็นความสมัครใจของสองฝ่าย ถ้าคนจ้างสบายใจ คนรับจ้างไม่มีปัญหา ก็ไม่น่าเป็นอะไร
แต่อีกประเด็นที่เกิดการถกเถียง คือโพสต์ดังกล่าวมีการนำภาพ “อ๊ามจุ้ยตุ่ย” ศาลเจ้าจีนชื่อดังของเมืองภูเก็ตไปประกอบในโพสต์ ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเป็นการทำให้อ๊าม (ศาลเจ้า) ได้รับความเสียหายโดยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
นายกิตติวงค์ จันทร์สัทธรรม นายกสมาคมอ๊ามภูเก็ต ยืนยันว่าไม่เหมาะสมและจะเดินหน้าดำเนินคดี ล่าสุดเจ้าของโพตส์ยอมลบภาพและข้อความ พร้อมขอโทษมายังศาลเจ้าและพี่น้องชาวภูเก็ตแล้ว พร้อมระบุ “ผิดหรือถูกประชาชนจะเป็นคนตัดสิน”
ล่าสุดวันนี้ (30 ก.ย.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ซอยภูธร ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ได้พบกับ นายกิตติวงค์ จันทร์สัทธรรม นายกสมาคมอ๊ามภูเก็ต ซึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับข้อมูลมาจากเพจฮกซิ่วภูเก็ต มีการนำเสนอภาพพิธียกเสาโกเต้งของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยแล้วไปโพสต์ในทำนองการรับจ้างถือศีลกินเจ ตนจึงได้ออกมาสอบถามข้อมูลกับสื่อสังคมว่ามีใครเคยได้ยินข้อมูลตรงนี้บ้างไหม จนกระแสโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก
“อ๊ามจุ้ยตุ่ยและทุก ๆ อ๊ามที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต เราไม่เคยมีการทำรูปแบบนี้เลย เราเน้นในเรื่องการให้ทุกคนรณรงค์กินเจ รักษาศีล ละเว้นฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่ในโพสต์ออกไปในเชิงการพาณิชย์ ตนในนามนายกของสมาคมอ๊ามต้องออกมาปกป้องความเชื่อความศรัทธาของคนภูเก็ต และได้รับการประสานจากผู้ที่โพสต์ได้แชทข้อความมาและโทรคุยแล้ว โดยได้อธิบายให้ฟังด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่อยากจะสร้างไวรัลในโซเชียล”
“ทั้งนี้ทั้งนั้นมองว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับคำว่าถือศีลกินผักของคนชาวภูเก็ต ขณะนี้งานถือศีลกินผักดังไประดับโลก และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตนในนามตัวแทนของชาวภูเก็ตต้องออกมาปกป้อง สุดท้ายน้องเขาก็กราบขอโทษเราก็คนภูเก็ตเหมือนกัน เราก็ต้องให้อภัย เราจะทำให้พิธีถือศีลกินผักได้มีการสืบสานต่อไป” นายกิตติวงค์ กล่าว