หลายฝ่ายรุดเยี่ยมสาวจีนพาราเซลลิ่งกระแทกพื้นขาหักกระดูกโผล่ ยืนยันเอาผิดเรียก 2 แสน 

ภูเก็ต - จากกรณีแฟนเพจลุยจีนระบุว่า สาวชาวจีนชื่อ น่าต๋าหาน ประสบอุบัติเหตุเล่นพาราเซลลิ่ง  บริเวณหาดกะรน จ.ภูเก็ต เธออัดคลิปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 24 ก.พ. ระหว่างที่เธอมาเที่ยวที่ภูเก็ต เธอพบว่ามีบริการให้เล่นพาราเซลลิ่ง จึงอยากไปลองเล่นดู แต่ดันเกิดอุบัติเหตุขณะกำลังร่อนลง หลังอยู่ดี ๆ ร่มควบคุมไม่อยู่ ทำให้ขาเธอลงกระแทกพื้นอย่างแรง จนแข้งซ้ายหักครึ่งกระดูกโผล่ออกมา

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567, เวลา 15:54 น.

หลังเกิดอุบัติเหตุ เธอร้องอย่างเจ็บปวด คนที่ขายบริการร่มร่อนเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเรียกรถพยาบาล แต่สภาพจราจรที่ จ.ภูเก็ต รถติดมาก รถพยาบาลแจ้งว่ากว่าจะไปถึงที่หาดต้องใช้อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง

เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เธอพบว่าเครื่องมือไม่พร้อม จนต้องทำเรื่องอีก 5-6 ชั่วโมง กว่าจะส่งไปที่โรงพยาบาลอีกแห่งซึ่งเป็นของเอกชน จนได้ผ่าแข้งที่หักแล้วใส่ดามเหล็กเข้าไป แผลเย็บยาว 15 ซม.

ทั้งนี้มีประเด็นที่เธอพาดพิงคู่กรณีคนไทยที่ขายเซอร์วิสให้คือ

  1. มาตรการความปลอดภัยต่ำมาก พอเธอจ่ายเงินเสร็จเหมือนโดนลากไปใส่เสื้อชูชีพแล้วมีคนให้บริการมาประกบหน้าหลังทันทีโดยไม่มีการอธิบายใด ๆ ว่า หลักการทำงานยังไง เธอพยายามบอกว่า wait wait แต่ฝั่งคนไทยพูดแค่ Hurry Hurry, Safe Safe แล้วลากเธอไปเล่นเลย
  2. หลังเกิดอุบัติเหตุแล้วเธอผ่าตัดใส่เหล็กดามเรียบร้อย ทางคู่กรณีแสดงท่าทีฮึดฮัดฉุนเฉียวใส่เธออย่างเห็นได้ชัด เธอบอกว่ามีการใช้วาจาว่าร้ายว่าเธอสำออยอยากได้เงิน พยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ (ล่ามของเธอเล่าให้ฟังสิ่งที่คู่กรณีพูดระหว่างที่อยู่ด้วย) รวมทั้งคนฝั่งคู่กรณียังไม่เชื่อผล CT scan คำบอกเล่าอาการจากแพทย์พยาบาล กล่าวหาว่าเธอกุเรื่องเพื่อจะเอาเงินอย่างเดียว
  3. เธอบอกว่าผ่าตัดใช้ไป 150,000 บาท ซึ่งเธอเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเพียง 2 แสน (เธอบอกจังหวะนั้นไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ อยากให้จบเร็ว ๆ) แต่คู่กรณีกลับตอบกลับมาว่ามีให้แค่ 5 หมื่นเท่านั้น รวมทั้งมีท่าทีแข็งกร้าวอย่างชัดเจนว่าไม่ยอมจ่ายเพิ่มใด ๆ รวมถึงท้าให้เธอห้ามแจ้งความ สุดท้ายเธอให้ทางโรงพยาบาลเปิดแผลให้คู่กรณีดูชัด ๆ คู่กรณีถึงท่าทีอ่อนลง (แต่เธอไม่ได้ลงรายละเอียดว่าสรุปยอมจ่าย 2 แสนหรือไม่)
  4. เธอเตือนเพื่อนชาวจีนว่า บริการในไทยหลายอย่างพวกกีฬาผาดโผนขอให้อย่าเล่น มีความเสี่ยงต่อชีวิต และเธอสังเกตว่าไม่มีคนไทยในพื้นที่เล่นกีฬาผาดโผนพวกนี้เลย มีแต่ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เธอใช้คำว่า “คนพวกนี้ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตพวกเราหรอก เห็นคนต่างชาติแบบตนเป็นแค่แหล่งเงินเท่านั้น”
  5. เธอบอกว่าจากที่สอบถามน้องผู้หญิงจากฝั่งที่ขายบริการร่มร่อน พบว่าทุกปีมีอุบัติเหตุแบบที่เธอประสบหลายเคส แต่ไม่เคยเป็นข่าว ยิ่งทำให้บริการแบบนี้น่ากลัวมาก ๆ เพราะหลังจากที่เธอแข้งหักเข้าโรงพยาบาล คู่กรณีก็ยังคงขายบริการนี้ให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

แฟนเพจระบุทิ้งท้ายว่า เธอได้ตั้งทนายเพื่อติดตามและฟ้องคู่กรณีแล้ว คนจีนเห็นคลิปต่ำ ๆ เกิน 2 ล้านคน คนกดแชร์เกิน 5 แสนครั้ง

ล่าสุดทราบว่าเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 13:00 น. เพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมล่ามได้เข้ามาติดต่อที่สถานีตำรวจ แจ้งว่าเพื่อนของตนได้เล่นพาราเซลลิ่ง (Parasailing) แล้วประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลฉลอง โดยได้ไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ฉลอง เพื่อจะได้นัดหมายให้ผู้ประกอบการมาชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เนื่องจากติดต่อผู้ประกอบการบริเวณหาดกะรนไม่ได้จึงมาขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อให้

จากนั้นสายตรวจไปติดตามผู้ประกอบการที่บริเวณหาดกะรนพบทราบว่าชื่อ ร้านเพลงเพลง  เมื่อผู้ประกอบการมาแล้วทั้งหมดได้พากันไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลฉลอง และไม่กลับเข้ามาที่สถานีตำรวจอีก

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.พ. เวลาประมาณ 12.30 น. ล่ามของชาวจีนได้โทรศัพท์มาสอบถามว่า หากกรณีที่ยังไม่ได้รับชดใช้ค่ารักษาพยาบาลจากผู้ให้บริการพาราเซลลิ่ง จะต้องทำอย่างไรต่อ พนักงานสอบสวนแจ้งว่าให้เตรียมเอกสารเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บแล้วเข้ามาพบอีกครั้ง เพื่อจะได้นัดหมายผู้ประกอบการเข้ามาเจรจา หลังจากวันดังกล่าวก็ไม่ได้รับการประสานติดต่อมาอีกเลย

ล่าสุดวันนี้ (28 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณเกิดเหตุพบกับ นายกิตติพงษ์ คงชนะ เป็นลูกจ้างของผู้ประกอบการเรือพาราเซลลิ่งและอยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ

นายกิตติพงษ์ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวจีนมาติดต่อสองคนสอบถามราคา จากนั้นก็ใส่เซฟตี้ให้เสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นได้ยินเสียงร้อง แล้วมีคนพูดว่าแขกขาหักขาหัก ตนก็เข้าไปดู หลังจากนั้นตนประสานทางเทศบาลกะรนก่อนแล้วติดต่อทางโรงพยาบาลฉลอง ประมาณ 2 ชั่วโมงรถพยาบาลมาถึง ทางตนมีค่าชดเชยให้นักท่องเที่ยว และได้เข้าเยี่ยมที่รพ.มิชชั่นแล้ว ส่วนของพาราเซลลิ่งได้ทำประกันไว้เรียบร้อย

โดยเมื่อเวลา 11.00 วันที่ 28 ก.พ.67 นำโดย นายณชพงศ์ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ท่องเที่ยวภูเก็ต ตำรวจน้ำภูเก็ต เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรนและเจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่บริเวณหาดกะรน เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตการจดทะเบียนเรือและได้ตรวจสอบใบอนุญาตคนควบคุมเรือ รวมไปถึงในส่วนของอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมเรือลากร่ม และทางเจ้าท่าภูมิได้สอบสวนผู้ประกอบการเรือลากร่มและให้ทางผู้ประกอบการสาธิต การปฏิบัติตอนนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายธนพล พนักงานเรือ (ประคองร่มร่อน) เล่าว่า “ก่อนที่จะขึ้นก็จะต้องเช็คทิศทางลม แต่ก็เดาทางลมไม่ได้ ลมจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้ตลอดเวลา เพราะทำงานกับธรรมชาติ มันไม่แน่นอน  วันที่เกิดเหตุวันนั้นทั้งวันมีนักท่องเที่ยวมาเล่นปกติ แต่มาเกิดเหตุตอนเย็นช่วงห้าโมงกว่า  ส่วนกรณีที่ผู้บาดเจ็บบอกว่ารอรถพยาบาลนานสองชั่วโมงไม่เป็นความจริง ได้บอกกับนักท่องเที่ยวตอนหลังเกิดเหตุว่า จะเรียกรถพยาบาลให้ แต่เมื่อโทรไปก็ทราบว่ารถไม่ว่าง จึงได้บอกนักท่องเที่ยวว่าจะขับรถไปส่งที่โรงพยาบาล แต่เขาไม่ยอม จะรอรถพยาบาล และรอไปสักพัก ตนสงสารเพราะเขาเจ็บ จึงเข้าไปคุยรอบสอง เพราะถ้ารอรถพยาบาล ก็น่าจะอีกนาน และขับรถไปโรงพยาบาลประมาณ 15 นาที”

“และก่อนที่จะนำนักท่องเที่ยวขึ้นรถไปส่ง ก็ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ โดยการนำผ้ามาพันเอาไว้ เพื่อไม่ให้เลือดไหลออกเยอะ ตอนนั้นไม่เห็นกระดูกเพราะเขาไม่ให้ดู และห้ามส่องไฟตรงที่แผล ก็ทำตามที่เขาบอก ขณะเกิดเหตุนักท่องเที่ยวไม่ได้ตกจากร่ม เป็นการลงกระแทกพื้น โดยตัวเขาเองลงมาถึงพื้นก่อน แต่รับน้ำหนักของนักท่องเที่ยวทั้งสองไม่ไหว แต่ก็ได้ช่วยประคองเอาไว้ได้ คนบาดเจ็บจะอยู่ตรงกลาง และเพื่อนเขาอยู่ด้านหน้า การขึ้นแต่ละครั้งก็จะดูร่างกายของนักท่องเที่ยวด้วย ถ้ามีน้ำหนักมากก็จะให้ขึ้นเพียงคนเดียว” เขากล่าว

ทางด้าน นายณชพงศ์ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า การลงตรวจสอบพื้นที่วันนี้ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ตามที่มีข่าวในโซเชียล ว่ามีนักท่องเที่ยวจีนได้รับบาดเจ็บ ก็ปรากฎว่าเป็นเรือชื่อ น้องเพลงเพลง เป็นเรือสปีดโบ้ท มีใบอนุญาตถูกต้อง มีประกันภัย ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าเรียบร้อย

“วันนี้มาตรวจสอบพื้นที่ว่า เกิดอะไรขึ้น จากการตรวจสอบพบว่า เกิดเหตุขณะที่ลงแตะพื้น ช่วงเย็นของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ได้ฟังผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ขึ้นไปกับร่มของนักท่องเที่ยวจีนทั้งสองคนกับเจ้าของเรือ และทีมงานทั้งหมดประมาณ 10 คน ก็ให้การตรงกันว่า ขณะที่เกิดเหตุก่อนจะลงถึงพื้นประมาณสองเมตร บนหาดทราย เกิดลมเปลี่ยนทิศทาง จากด้านบนลงมา ทำให้นักท่องเที่ยวตกลงมากระแทก แต่มีคนช่วยพยูง แต่ก็มีการกระแทกด้วยน้ำหนักของนักท่องเที่ยวทั้งสองท่านจึงบาดเจ็บดังกล่าว” นายณชพงศ์ กล่าว

“เรือลักษณะนี้ เป็นเรือลักษณะผสม บางครั้งก็ใช้ลากบานาน่า และร่มด้วย ในพื้นที่ภูเก็ตมี 39 ลำ ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมเจ้าท่า กระจายอยู่ตามหาดต่าง ๆ  หลังจากนี้ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเทศกาล ที่มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรือชนเกาะไม้ท่อน ก็ได้ร่วมกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสารเสพติด ประชุมอบรม สำนักงานการท่องเที่ยวที่เป็นแม่งาน ในการสร้างจิตสำนึก เป็นเจ้าบ้านที่ดี ดูแลนักท่องเที่ยว ที่เป็นโครงการอบรมอย่างต่อเนื่อง และจะมีโครงการนำคนประจำเรือที่มีประมาณ 1 พันคน เข้ามาอบรมในเรื่องของ ซีพีอาร์ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น”

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (28 ก.พ.) พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สวญ.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3  ลงพื้นที่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ รพ.มิชชั่นภูเก็ต พร้อมเผยว่า นทท.ขอเรียกร้องตามที่โพสต์ไปแล้ว

“สำหรับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนรายนี้ ขณะนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการโดยรวมดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงต้องนอนพักรักษาตัว ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นจากนักท่องเที่ยว ก็ยืนยันว่าจะเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณีจำนวนสองแสนบาท”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่