อุตุฯคาดปลายเม.ย.ร้อนสุดในรอบปีอุณหภูมิทะลุ43องศา

อธิบดีกรมอุตุฯ เผยหน้าร้อนปีนี้อุณหภูมิสูงสุด 43 องศา ระหว่าง 20 เม.ย.- 4 พ.ค. แต่ไม่เท่าปีที่แล้ว

โพสต์ทูเดย์

วันจันทร์ ที่ 27 มีนาคม 2560, เวลา 16:16 น.

ภาพ โพสต์ทูเดย์

ภาพ โพสต์ทูเดย์

นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงเดือน เม.ย.ถือเป็นช่วงที่อุณหภูมิอากาศของประเทศไทยร้อนมากที่สุด โดยปีนี้ระหว่างวันที่ 20 เม.ย.-4 พ.ค. คาดว่าจะเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงสุดอาจถึง 43 องศาเซลเซียสโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน เพราะช่วงดังกล่าวพระอาทิตย์ตั้งฉากกับประเทศไทย ทำให้รังสีของพระอาทิตย์ลงมาโดยตรง

นอกจากนี้ ในพื้นที่ภาคเหนือลักษณะภูมิประเทศเป็นหุบเขาบางส่วน และอยู่ห่างไกลจากทะเลทำให้ลมทะเลพัดมาไม่ถึง

อย่างไรก็ตาม ฤดูร้อนปีนี้อุณหภูมิสูงสุดจะไม่สูงเท่ากับปี 2559 ที่สูงถึง 44.6 องศาเซลเซียส เนื่องจากในปีนี้ไทยไม่มีปรากฏการณ์เอลนินโญและสภาพความแห้งแล้งพื้นที่ต่างๆ ไม่มากเท่าที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณน้ำในปีนี้มีมากกว่าปีที่แล้ว โดยฤดูร้อนในปีนี้จะมีไปจนถึงช่วงกลางเดือน พ.ค. จากนั้นจะเข้าสู่ฤดูฝน

นายวันชัย กล่าวว่า ขอเตือนประชาชนว่าช่วงหน้าร้อนนี้ไม่ควรออกทำงานกลางแจ้งหรือหากจำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงการทำงานช่วงบ่าย เพราะเป็นช่วงที่อุณหภูมิสูงที่สุดหรือทางป้องกันที่ดีควรสวมหมวกหรือใช้ร่มหากต้องออกมากลางแดด และควรดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับอุณหภูมิได้

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 26-29 มี.ค. ประเทศไทยจะมีสภาพอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ โดยช่วงวันที่ 26 มี.ค. จะเกิดพายุฤดูร้อนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก

ขณะที่ในช่วงวันที่ 27-29 มี.ค. จะเกิดพายุฤดูร้อนครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันยังมี 7 จังหวัดที่คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ได้แก่ จ.ลำพูน แพร่ พะเยา น่าน เชียงใหม่ ตาก และลำปาง

ทั้งนี้ สองจังหวัดที่มีปริมาณฝุ่นละอองในอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพเกินค่ามาตรฐานตามลำดับ คือ จ.เชียงราย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย และ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้ประสาน 9 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่าเร่งป้องกันต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่