อเมริกันแห่ทิ้งสัญชาติต่อเนื่อง

ชาวอเมริกันแห่ทิ้งสัญชาติสูงสุดทุบสถิติ เป็นประวัติการณ์ปี 2016 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังรัฐคุมเข้มเลี่ยงภาษี ด้านศาลอุทธรณ์เบรก'ทรัมป์' แบนมุสลิม

โพสต์ทูเดย์

วันเสาร์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560, เวลา 10:45 น.

บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษที่เกิด ในเมืองนิวยอร์ก

บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษที่เกิด ในเมืองนิวยอร์ก

บลูมเบิร์กรายงานว่า ชาวอเมริกันยอมทิ้งสัญชาติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2016 เพิ่มขึ้น 26% อยู่ที่ 5,411 ราย จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลสหรัฐผ่านกฎหมายภาษีเพื่อติดตามการเลี่ยงภาษีในต่างประเทศ (แฟตกา) เมื่อปี 2010

รายงานระบุว่า แฟตกากำหนดให้สถาบันการเงินต่างชาติต้องยื่นข้อมูลบัญชีของพลเมืองสหรัฐกับสรรพากรสหรัฐ หากฝ่าฝืนจะต้องถูกเก็บภาษี 30% ส่งผลให้ธนาคารหลายแห่งหลีกเลี่ยงการเปิดบัญชีให้กับชาวอเมริกันในต่างประเทศ โดยแอนดรู มิตเชล ทนายความด้านภาษีจากบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศแอนดรู มิตเชล แอลแอลซี กล่าวว่า การปรับเพิ่มบทลงโทษการเลี่ยงภาษี ดังกล่าวในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พลเมืองสหรัฐทิ้งสัญชาติมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สหรัฐเรียกเก็บภาษีตามสัญชาติพลเมืองไม่ใช่ตามสถานที่อยู่ ส่งผลให้ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่นอกประเทศต้องเสียภาษีซ้อน ทำให้ล่าสุด บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษที่เกิด ในเมืองนิวยอร์ก ประกาศทิ้งสัญชาติอเมริกัน เนื่องจากโดนทางการสหรัฐเรียกเก็บภาษีจากการขายบ้านในอังกฤษ
          
รอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศแผนปฏิรูปภาษีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ หลังพบปะกับบรรดาผู้บริหารสายการบินหลายแห่งเมื่อวันที่ 9 ก.พ. แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม โดยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเป็นแผนการหั่นภาษีสำหรับเอกชนสหรัฐ

ในวันเดียวกัน ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ตัดสินระงับคำสั่งแบนพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมชั่วคราวของทรัมป์ เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า พลเมืองจากประเทศ ดังกล่าวเป็นภัยคุกคามความมั่นคง และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในสหรัฐ อย่างไรก็ดี ศาลยังไม่ได้ตัดสินใจว่า คำสั่งแบนดังกล่าวถือเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือไม่ เนื่องจากยังต้องมีการยื่นคำร้องทางกฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเจตนาการประกาศคำสั่งดังกล่าวของทรัมป์

หลังการตัดสินดังกล่าว ทรัมป์ทวีต ข้อความแสดงความไม่พอใจ โดยรัฐบาลทรัมป์มีเวลา 14 วันในการขอให้ผู้พิพากษาของศาลอุทธรณ์ทั้งหมดทบทวนคำ ตัดสินดังกล่าว หรือยื่นเรื่องไปให้ศาลฎีกาตัดสินโดยตรง


 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่