ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในช่วงวันที่ 5 – 10 ก.ย. 66 ดังนี้
- ภาคเหนือ
- จ.เชียงใหม่ (อ.อมก๋อย)
- จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน)
- จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง อุ้มผาง แม่สอด แม่ระมาด และพบพระ)
- จ.แพร่ (อ.ร้องกวาง)
- จ.น่าน (อ.ปัว บ่อเกลือ เชียงกลาง ทุ่งช้าง ท่าวังผา เฉลิมพระเกียรติ และสองแคว)
- จ.พิษณุโลก (อ.นครไทย และเนินมะปราง)
- จ.เพชรบูรณ์ (อ.เขาค้อ และเมืองเพชรบูรณ์)
- จ.อุตรดิตถ์ (อ.น้ำปาด)
- จ.กำแพงเพชร (อ.คลองลาน)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- จ.เลย (อ.ภูเรือ)
- จ.ชัยภูมิ (อ.หนองบัวแดง)
- จ.มุกดาหาร (อ.หว้านใหญ่ และ อ.เมืองมุกดาหาร)
- จ.นครพนม (อ.ธาตุพนม)
- จ.นครราชสีมา (อ.ปากช่อง)
- ภาคตะวันออก
- จ.ฉะเชิงเทรา (อ.เมืองฉะเชิงเทรา บ้านโพธิ์ บางน้ำเปรี้ยว และบางปะกง)
- จ.นครนายก (อ.ปากพลี และองครักษ์)
- จ.ปราจีนบุรี (อ.ประจันตคาม และบ้านสร้าง)
- จ.จันทบุรี (อ.ขลุง และแหลมสิงห์)
- จ.ตราด (อ.คลองใหญ่ เกาะกูด เกาะช้าง เขาสมิง แหลมงอบ และบ่อไร่)
- ภาคกลาง
- จ.อุทัยธานี (อ.บ้านไร่)
- จ.กาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ)
- ภาคใต้
- จ.นครศรีธรรมราช (อ.ฉวาง และพิปูน)
- จ.ระนอง (อ.เมืองระนอง)
- จ.ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต และถลาง)
ส่วนในช่วงวันที่ 6 – 9 ก.ย. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก
พายุไต้ฝุ่น “ไห่ขุย” (HAIKUI)
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลคลื่น 3 เมตร
สำหรับเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ไห่ขุย” (HAIKUI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศจีน ในวันที่ 5 ก.ย.2566 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยโดยตรง ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าว ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง
สถานการณ์น้ำท่วม
เนื่องจากฝนที่ตกหนักติดต่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางภาคใต้ของประเทศไทย
- จังหวัดสตูล โดยเฉพาะอำเภอละงู 10 หมูบ้านใน 4 ตำบล น้ำท่วมสูง ชาวบ้านกว่า 2,500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน พื้นที่ทางการเกษตรหลายพันไร่จมอยู่ใต้น้ำ พื้นที่น้ำท่วมก็ยังขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ เพราะฝนยังตกต่อเนื่อง
การช่วยเหลือ ปภ.สตูล ร่วมกับ ชลประทานสตูล ลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง และลงพื้นที่เตรียมการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อระบายน้ำบริเวณคลองมำบัง ตำบลควนขัน อำเภอเมืองสตูล หลังสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ และพื้นที่จังหวัดสตูล
- จังหวัดพังงา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มของตำบลบางไทรและตำบลโคกเคียน อำเภอตะกั่วป่า ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร อย่างไรก็ตามแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันต่อไป เพราะในพื้นที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง
การช่วยเหลือ โดยทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ทม.ตะกั่วป่า ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ด้วยเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้แล้ว แต่เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน ทำให้ระดับน้ำในคลองตะกั่วป่าอยู่ในระดับสูงทำให้ระบายน้ำได้ช้า, อบต.โคกเคียน ได้จัดอาหารปรุงสำเร็จดำเนินการแจกจ่ายประชาชนที่ยังไม่สามารถจัดหาอาหารเองได้
สถานการณ์ปัจจุบันปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง และระดับน้ำทะเลลด เจ้าหน้าที่กำลังระบายน้ำออกสู่ทะเล และทุกพื้นที่ระดับน้ำท่วมลดลง
- จังหวัดกระบี่ น้ำป่าไหลหลากลงคลองอิปัน อำเภอปลายพระยา และกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวพัดสะพานทางเบี่ยง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานคอนกรีตข้ามคลอง บริเวณชุมชนบ้านหาดถั่ว พังเสียหาย จนไม่สามารถผ่านสัญจรได้ ชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว ถูกตัดขาด ต้องใช้เส้นทางอ้อมเดินทางออกจากหมู่บ้านกว่า 10 กิโลเมตร
- จังหวัดตราด แม้ฝนจะตกน้อยลง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอบ่อไร่ เริ่มคลี่คลาย แต่มวลน้ำได้ไหลทะลักลงมา ในพื้นที่อำเภอเขาสมิง ชาวบ้านที่อยู่ริมคลองเขาสมิง ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ได้รับผลกระทบนับร้อยหลังคาเรือน