'เมียนมา' เมินตะวันตกหันซบอกจีน

เมียนมา - สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ก่อนหน้านี้เมียนมาหันหลังให้กับจีน และคบหากับชาติตะวันตกในช่วงเปิดประเทศ แต่ในเวลานี้กำลังเกิดปรากฏการณ์ตรงกันข้าม

โพสต์ทูเดย์

วันอังคาร ที่ 30 พฤษภาคม 2560, เวลา 09:15 น.

เพราะรัฐบาลเมียนมาไม่สามารถดึงดูดการลงทุนจากชาติตะวันตกเข้ามาในประเทศได้ ทำให้ต้องหันกลับไปพึ่งพาจีน โดยที่จีนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยไม่ตั้งแง่เรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนเหมือนกับชาติตะวันตก ที่ยังคงโจมตีเมียนมาในประเด็นนี้อยู่ตลอดเวลา

การเปิดประเทศของเมียนมา ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญด้านนโยบายต่างประเทศของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา แห่งสหรัฐ ซึ่งมีส่วนช่วยล็อบบี้ให้กองทัพยอมสละอำนาจให้ขบวนการประชาธิปไตยที่นำโดย ออง ซาน ซูจี ด้วยการเสนอฟื้นฟูสัมพันธ์ทางการทูตและยุติมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ จนกระทั่งพรรคการเมืองของซูจีคว้าชัยในการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาลในที่สุด

ซูจียังคงได้รับการยกย่องอย่างมากในโลกตะวันตก ในฐานะนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ในช่วง 14 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลของนางกลับไร้ความสามารถในการยุติความขัดแย้งระหว่างชนกลุ่มน้อยและกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ อีกทั้งยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ว่าเมียนมาจะกลายเป็นยักษ์ที่ตื่นขึ้นมาช่วงชิงความเป็นหนึ่งในภูมิภาค สาเหตุของความล้มเหลว มาจากการที่กองทัพยังเป็นอิสระจากรัฐบาล ทั้งยังมีอำนาจมหาศาลทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ

บทบรรณาธิการของเว็บไซต์ข่าว Irrawaddy ชี้ว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาอยู่ในสภาวะที่คาดเดาได้ยาก ทำให้ชาติตะวันตกแสดงอาการลังเลที่จะให้การสนับสนุนเมียนมา และอิทธิพลของประเทศเหล่านี้จึงเสื่อมถอยลง ส่วนจีนเริ่มเดินเกมรุกมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาซูจีเดินทางเยือนจีนถึง 2 ครั้ง รวมถึง ทีนจอ ประธานาธิบดีแต่ในนามของเมียนมาก็ยังเดินทางเยือนจีนเช่นกัน โดยประเด็นสำคัญที่หารือกันคือความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับที่แน่นแฟ้นขึ้น

ที่สำคัญ เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพเรือเมียนมายังจัดการซ้อมรบร่วมกับฝ่ายจีน ซึ่งสื่อของรัฐบาลจีนชี้ว่า เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางการเมืองระหว่างสองฝ่าย


นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐยังไม่ได้แสดงความสนใจเมียนมามากนัก โดยทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับผู้นำในภูมิภาคหลายคนยกเว้นซูจี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซูจีเป็นบุคคลสำคัญในสายตาชาติตะวันตก และเป็นผู้ที่นำระบอบประชาธิปไตยมาจ่อคอหอยจีน ซึ่งนักการเมืองสหรัฐถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่

ดีเร็ก มิตเชล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐเผยว่า การที่เมียนมาเคยเข้าหาชาติตะวันตกทำให้จีนงุนงงเป็นอันมาก แต่ในเวลานี้จีนกำลังไล่ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง และจีนพยายามทำให้เมียนมารู้สึกว่า เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดดีกว่าพวกอเมริกันที่อยู่ห่างอีกซีกโลกหนึ่ง

ทั้งนี้ เมียนมามีความสำคัญกับจีนในทางยุทธศาสตร์ เพราะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ออกไปยังอ่าวเบงกอล นอกจากนี้ เมียนมายังมีทรัพยากรและศักยภาพทางเศรษฐกิจที่มากมาย ซึ่งช่วงก่อนที่จะเปิดประเทศเมียนมาทำธุรกิจกับจีนอย่างกว้างขวาง แต่ชะงักลงหลังจากนั้น

ซุนอวิ๋น ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีนของสถาบันสติมซัน เซนเตอร์ ในกรุงวอชิงตัน เปรียบเทียบด้วยคำพังเพยจีนว่า เมียนมาเหมือนกับเป็ดที่ปรุงสุกแล้ว แต่กลับบินหนีออกทางหน้าต่างไป หมายความว่า จีนเคยยึดกุมเมียนมาไว้ในฐานะพันธมิตร แต่กลับถูกสหรัฐช่วงชิงไปหน้าตาเฉย

มิตเชล อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐเตือนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเมียนมากับจีนที่กลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อสหรัฐ และที่สำคัญ หากสหรัฐไม่อาจผลักดันให้เมียนมาเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยได้ในที่สุด จะยิ่งทำให้รัฐบาลอำนาจนิยมในเอเชียมั่นใจยิ่งขึ้นว่า ระบอบประชาธิปไตยไม่เหมาะกับภูมิภาคนี้

ที่มา www.m2fnews.com

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่