แฉอีก! ฝรั่งลื่นเตะหลังหมอ ซ่าแจกนิ้วกลางใส่รถพยาบาล ทำมือเหมือนปืนจ่อหัว

ภูเก็ต - จากกรณีเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 67 เพจเฟซบุ๊ก ’อีซ้อขยี้ข่าว’ โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า ผัว-เมียเตะหมอภูเก็ตแช่ขวา ชูนิ้วกลางกร่างใส่รถกู้ชีพ...แต่ที่มันแซ่บไปกว่านั้นฟ้องกลับคู่กรณีเอาผิด พ.ร.บ.คอมกับรถพยาบาลให้เหตุผลว่าผิดกฎจราจรโทษน้อยกว่าเพราะฉันรู้จักตำรวจใหญ่ ๆ ภูเก็ตหลายคน คดีอยู่ที่ สภ.ถลาง - เชิงทะเล จ.ภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันอาทิตย์ ที่ 3 มีนาคม 2567, เวลา 09:47 น.

ทางเพจยังได้บอกอีกว่า “รถคันนี้ไม่ได้เปิดไซเรนนะคะ เพราะไม่ได้มีเหตุฉุกเฉิน แต่เนื่องจากจะนำวัคซีนและไปประจำจุดฉีดวัคซีนให้กับชาวบ้าน แต่ด้วยพฤติกรรม ต่อให้รถพยาบาลไม่เร่งรีบหรือไม่มีผู้ป่วยก็จริง แต่เขาก็ไม่ควรแสดงพฤติกรรมหรือแสดงท่าทางเยี่ยงนี้”

หลังจากคลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผัวเมียคู่นี้ มีทั้ง รถขุดเริ่มทำงานขุดกว่าเดิมอีก รอดูตอนจบ, มันใหญ่คับภูเก็ตอะดิ, ขยี้และขุดต่อไปค่ะ, ขุดต่อไปยาวๆ ค่ะ น่าจะมีอีกเยอะมั้ยคะ, หางโผล่มาซะยาวเลย,ร้ายจริงคู่นี้ จัดเต็มมมม…, สุดยอดครับ ขยี้อีกคับ ภูเก็ตจะได้ดีขึ้น

โดยว่าที่ร้อยตรีวิบูลย์ ฮ้อบุตร ได้เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 25 ธ.ค. 66 เวลา  20.21 น. ตนได้เข้าพบ ร.ต.อ.ฐิติวัฒน์ อาษาสิงห์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเข้าแจ้งความว่าเวลาประมาณ 09.55 น. ของวันที่ 25 ธ.ค.66 ขณะที่ตนขับขี่รถพยาบาลของ รพ.ถลาง มาตามถนนเทพกระษัตรี ขาเข้า เมื่อถึงบริเวณจุดกลับรถบ้านหยี่เต้ง หรือจุดกลับรถวัดท่าเรือ ต.ศรีสุนทร อ.กลาง จ.ภูเก็ต ได้มีชายชาวต่างชาติ ได้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อออร์ดี้ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก 8881 ภูเก็ต ได้ชูนิ้วกลาง พร้อมกับทำมือเป็นปืนจ่อหัวใส่ ทำให้ได้รับความเสียหาย และเกรงว่าจะได้รับอันตรายตามมาในภายหลัง จึงมาแจ้งความไว้เป็นเป็นหลักฐาน เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามตัวชาวต่างชาติคนดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ช่วงบ่ายวานนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาพบกับว่าที่ ร้อยตรีวิบูลย์ ซึ่งได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66 ตนได้รับมอบหมายให้ขับรถพยาบาลไปสแตนด์บายศูนย์ฉีดวัคซีนที่ห้างโรบินสัน สาขาถลาง ระหว่างขับไปเลยวงเวียนอนุสาวรีย์แล้วไปยูเทิร์นที่บ้านหยี่เต้ง แต่ระหว่างที่ขับไปเรื่อย ๆ ก็มีรถสีดำขับผ่านมาแทรกขวาและตัดหน้าขับไปตามปกติ ตนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หลังจากนั้นเขาลดกระจกทำลักษณะมืออ้อมหลังคาเหมือนกับให้ตนไปซ้าย แต่จุดประสงค์คือต้องกลับรถ หลังจากนั้นเขาก็โชว์นิ้วกลางให้ตนหลังจากนั้นเขาทำมือเป็นปืนจ่อหัว พอไปถึงจุดขับรถเขาก็ลดกระจกแล้วชูนิ้วกลางพร้อมกับคำพูดว่า f**k you ด้วยความโมโหก็เลยตะโกนกลับไปเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็ขับหนีตนไปจนถึงหน้าวัดท่าเรือ แต่เขาหนีไม่ได้เพราะว่าเลนซ้ายก็ติดเลนส์กลางก็ติดสุดท้ายก็มาอยู่หน้ารถตนเหมือนเดิม หลังจากนั้นเขาขับรถชะลอ ตนก็อยู่ห่าง ๆ เพราะคิดว่าถ้าเข้าใกล้ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้แล้ว ตนก็เลยให้เพื่อนถ่ายคลิปตามที่เห็นจนไปถึงอนุสาวรีย์เขาก็แยกย้ายไปทางฝั่งเชิงทะเลตนก็แวะโรบินสัน สาขาถลาง

หลังจากที่เลี้ยวเข้าไปที่โรบินสันตรงจุดฉีดวัคซีนระหว่างสแตนด์บายเพื่อนได้ส่งคลิปและรูปภาพต่าง ๆ มาจึงได้ทำการโพสต์ในเพจขับรถอย่างนี้ต้องประจานภูเก็ต หลังจากเลิกงานประมาณ 20.00 น. ตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ถลาง สาเหตุที่ได้แจ้งเพราะกลัวเพราะฝรั่งทำสัญลักษณ์เหมือนปืนมาจ่อหัว หลังจากนั้นวันที่ 29 ธ.ค.66 ร้อยเวร สภ.ถลาง ติดต่อตนมาว่าทางคู่กรณีของตนแจ้งความไว้ที่ สภ.เชิงทะเล ร้อยเวร สภ.ถลางประสานมาเพื่อให้ไปเจอกันวันไหนและได้เริ่มพูดคุยกันวันที่ 3 ม.ค. 67 โดยตนพาแฟนและพยานเพื่อไปไกล่เกลี่ยและรับทราบรายละเอียดต่าง ๆ จากนั้นได้เข้าห้องไปพูดคุยในห้องมีฝรั่งและแฟนเขา มีหมวดและมีใครอีกไม่ทราบอีกคนหนึ่ง หลังจากนั้นไกล่เกลี่ยกันแล้วได้รับทราบว่า ตนมีความผิดโดยที่ตนไม่ทราบว่าทำอะไรผิด พอรู้ว่ามีความผิด พอจะจบแยกย้ายกันแล้วมันก็ได้ขอโทษฝรั่งด้วยการยกมือไหว้ ฝรั่งก็รับไหว้และหันไปยกมือไหว้ทางแฟนฝรั่งแต่เขาไม่ยกรับต่อ แต่เขามองตนด้วยความอาฆาตจริง ๆ

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 หมวดของ สภ.เชิงทะเล ได้ติดต่อมาแจ้งเตือนว่า คู่กรณีต้องการให้ตนลบโพสต์แต่ก่อนที่จะลบโพสต์ให้ตนแคปหน้าจอทั้งหมดที่ตนโพสต์ไปแล้วกลับมาโพสต์อีกครั้งหนึ่งตามที่ทางตำรวจแจ้งมา หลังจากนั้นวันที่ 11 ม.ค. พอไปถึงไม่เจอคู่กรณีหลังจากที่นั่งรอได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่าเป็นผู้การ ถามว่าทำงานที่ไหน เงินเดือนเท่าไร มีลูกมีเมียไหม คุยไปตามที่เขาถาม หลังจากนั้นทางผู้กองแจ้งว่าให้ตนโพสต์ให้ติดต่อกัน 7 วัน ก็เลยถามผู้กองว่าหลังจากโพสต์ครบ 7 วันแล้ว เขาจะถอนแจ้งความหรือไม่ ผู้กองก็บอกว่าขึ้นอยู่กับความพอใจของคู่กรณี หลังจากนั้นไม่นานก็เบอร์เดิมโทรเข้ามา ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้การว่าเปลี่ยนเป็นให้ตนทำคลิปโพสต์ 7 วันตนก็รับปาก

โดยให้ตนโพสต์เป็นคลิปจะได้รู้ข้อมูลทั้งสองฝ่ายหลัง จากนั้นตนก็กลับตอบมาวันที่ 17 ม.ค. 67 ผู้กองได้นัดกันมาอีกครั้งโดยอ้างว่าผู้กำกับต้องการที่จะพูดคุยพูดเคลียร์ในส่วนของเรื่องนี้ วันรุ่งขึ้นตนก็ได้ไปที่ สภ.เชิงทะเล และได้พบกับผู้กำกับและคู่กรณี ซึ่งมีทนายมาด้วย ส่วนตัวตนก็ได้พาแฟนไปก็ได้พูดคุยกันไม่ลงตัว เมื่อไม่ลงตัวคือจุดประสงค์เขาคือให้ตนโพสต์ขอโทษ แต่เคลียร์ไม่ลงตัว การให้การแบบนี้ไม่โอเค ตนก็เลยบอกว่าแบบนี้ได้ไหมให้ทนายพิมพ์มาคำขอโทษต่าง ๆ นี้ว่าโอเคไหม หลังจากนั้นทนายก็พิมพ์มาและตนกับแฟนได้อ่าน หลังจากอ่านแล้วแฟนก็ไม่พอใจที่ประโยคสุดท้ายกับคำว่า "ต่อไปตนจะไม่โกหก และไม่ทำตัวแย่ ๆ แบบนี้อีก" แฟนตนก็บอกว่าขอคัดค้าน เพราะไม่ได้โกหกมันเป็นเรื่องจริงและโต้เถียงกันด้วยคำว่าโกหก ให้อีกฝั่งถอนคำว่าโกหกแล้วถึงจะโพสต์ ถ้าไม่ถอนก็จะไม่โพสต์ ต่างฝ่ายก็โต้เถียงกันไป ทางคู่กรณีก็ได้เดินออกจากห้อง หลังจากนั้นตนก็เดินออกไปจากห้อง แล้วไปเจอผู้กำกับผู้กำกับก็พูดกลับมาว่า ถ้าตนไม่โพสต์แล้วมันจะต้องติดคุกประมาณ 3-4 ปี แต่ตนก็ไม่ได้รู้กฎหมาย แล้วไปพูดกับแฟนตนว่าอยากอยู่คนเดียวหรอแล้วหลังจากนั้นก็ยกมือไหว้

จากนั้นวันที่ 27 ก.พ. 67 ทาง สภ.เชิงทะเล ประสานให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันรุ่งขึ้นเวลา 14.00 น. ตนก็ได้รับปากไปเพราะโทรมาในเวลากลางวัน แต่ตอนเย็นตอนมีภารกิจด่วนซึ่งไม่ได้ไป จึงได้โทรหาผู้หมวด 2 สายแต่ไม่รับ ก็เลยส่งไลน์ไปหาผู้หมวดจนถึงตอนนี้ผู้หมวดยังไม่เปิดอ่าน ซึ่งตนดูแล้วว่าให้ตนไปรับทราบข้อกล่าวหา ถ้าตนประสานไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ถ้าหากมีกรณีผิดพลาดอย่างไรตนก็กลัวมีความผิด

ซึ่งวันนี้ตนได้ดูจากสื่อบางสื่อเรื่องการเคลียร์กับคู่กรณี ตนขอชี้แจงว่าตนไม่ได้ค่าชดเชยอะไรสักอย่างจากคู่กรณี ตนขออนุญาตมาชี้แจงว่าตนไม่เคยได้รับอะไรต่าง ๆ จากคู่กรณี ซึ่งเป็นผู้ก่อปัญหาตรงนี้เอง ขอชี้แจงว่าไม่เคยได้รับอะไรทั้งสิ้นจากคู่กรณี

และเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. (2 มี.ค.) ทางร้อยเวร สภ.ถลาง เจ้าของคดีของตนแจ้งว่า ได้ประสานไปยัง สภ.เชิงทะเล ว่าจะพูดคุยและจะมีการประสานได้ลงตัว เพื่อเป็นการขอถอนแจ้งความในคดีของตน ในส่วนตัวของตนถ้ามีผลต่อตนหรือที่ยังค้างคาอยู่ตนก็ยินดีถอนแจ้งความให้ แต่ถ้าไม่มีผลอะไรก็น่าจะคงไว้แบบนี้

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่