รศ.พญ.สุพัตรา กล่าวว่า คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) ที่ใช้ปรุงอาหารคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นทีวี หรือคลื่นแสงธรรมดา โดยคลื่นไมโคเวฟที่ใช้ปรุงอาหารจะมีความถี่คลื่น 2,450 ล้านรอบต่อวินาที เมื่อคลื่นพุ่งไปกระทบอาหารจะถ่ายทอดพลังงานของมันให้โมเลกุลของน้ำทั้งในและนอกอาหาร เกิดการสั่นสะเทือนเสียดสีกันเป็นความร้อน จึงทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว เมื่อคลื่นมอบพลังงานให้โมเลกุลของน้ำหมดแล้ว มันก็จะสลายตัวไป ไม่สะสมอยู่ในอาหารอีก คงเหลือไว้แต่สภาพอาหารที่เปลี่ยนจากอาหารเดิมเป็นอาหารสุกเท่านั้น คลื่นไม่โครเวฟจึงไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทั้งนี้คลื่นไม่โครเวฟไม่สามารถจะทะลุทะลวงผ่านผนังตู้และฝาตู้ออกมาได้ ฉะนั้นแสงที่เรามองเห็นในตู้ไม่ใช่แสงของคลื่นไมโครเวฟแต่เป็นแสงของดวงไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในตู้ขณะเครื่องทำงานเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ในทางการแพทย์ได้มีการนำคลื่นชนิดใช้ในการรักษา โดยต้องการเพียงความร้อนระดับอุ่น สบาย ๆ เช่น ทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้ไมโครเวฟความถี่ต่ำ เพื่อใช้คลายการปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ ทางด้านรังสีรักษาและทางระบบทางเดินปัสสาวะใช้ไมโครเวฟความถี่สูงขึ้นใช้รักษาทำลายเซลล์มะเร็งเฉพาะที่ตื้น ๆ ร่วมกับการรักษาด้วยรังสีและยารักษามะเร็ง และยังสามารถใช้รักษาโรคต่อมลูกหมากโตในชายผู้สูงอายุบางรายได้ด้วย
ข้อแนะนำทั่วไปสำหรับการใช้ไมโครเวฟที่ถูกต้องและปลอดภัย
1. เลือกภาชนะที่ใช้ให้เหมาะสม เช่น ชามแก้วทนไฟ ชามกระเบื้อง พลาสติกทนความร้อน ภาชนะไม้ จานกระดาษ
2. ห้ามใช้ภาชนะโลหะทุกชนิด หรือภาชนะกระเบื้องที่มีขอบเงินขอบทอง เป็นส่วนผสมของโลหะ เพราะคลื่นไม่สามารถจะพุ่งผ่านไปได้ เมื่อชนโลหะแล้วคลื่นจะสะท้อนกลับ เกิดการสปาร์คเป็นดวงไฟเล็ก ๆ เกิดเสียงดัง และอาจจะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในตู้ได้ หากในตู้นั้นไม่สะอาดมีน้ำมันกระเด็นไปรอบตู้
3. เวลาปรุงอาหารที่เป็นน้ำหรือน้ำมัน เมื่อเดือดมีโอกาสกระเด็นไปไกลไปติดรอบตู้ ควรใช้ฝาหรือพลาสติกทนความร้อนครอบเสียก่อน จะช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาดตู้
4. ไม่ควรนำอาหารที่มีผิวมันหรือมีเปลือกแข็งเข้าไปทำให้สุกในตู้ เพราะความร้อนทำให้อากาศภายในอาหารขยายตัว ประกอบกับไอน้ำที่เกิดขึ้นมีแรงดันสูง จะทำให้เกิดระเบิดเสียงดังได้ ควรใช้ส้อมจิ้มผิวอาหารหรือเปลือกอาหารให้เป็นรูเสียก่อน เพื่อป้องกันการปะทุที่เกิดจากความร้อนภายในอาหารขยายตัว
5.การปรุงอาหารด้วยภาชนะที่มีฝาปิดในตัวควรเผยอฝาปิดเล็กน้อย เพื่อให้ไอน้ำพุ่งออกได้ หรือเพียงวางฝาไว้ไม่ต้องปิดแน่น
"และที่สำคัญต้องเลือกซื้อเครื่องที่มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ อ่านคู่มือก่อนใช้ และเลือกภาชนะที่ใช้ให้เหมาะสม หากเครื่องดีไม่มีรอยรั่ว อันตรายจากไมโครเวฟจะไม่เกิดขึ้นเลย 100%" รศ.พญ.สุพัตรา ระบุ
ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล