คดีดังกล่าว ศาลเมืองซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริก เปิดการไต่สวนพยานหลักฐานเมื่อวันอังคารที่ 7 ก.พ.2560 หลักฐานหนึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เผยนาทีเกิดเหตุเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2559
จังหวะนั้น น.ส.เจสสิกา วิลสัน อายุ 27 ปี รุดออกจากรถ มืออุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ พยายามส่งลูกให้พนักงานแมคโดนัลด์ ผ่านทางช่องรับสินค้า หรือ ไดรฟ ธรู เพื่อหนีนายเลเวนสกี้ ครอสตี้ อายุ 27 ปี พ่อเด็ก ซึ่งพุ่งพรวดออกมาจากรถและเข้ายื้อแย่ง
ฝ่ายชายพยายามดึงแย่งลูกออกจากมือฝ่ายหญิง ทั้งฉุดดึงแขนให้กลับเข้าไปในรถ ฝ่ายหญิงจึงจัดการอุ้มเด็กให้พนักงานแมคฯ ซึ่งเอื้อมมือมารับเด็กหญิง พร้อมพูดว่า “ส่งเด็กมาเลย” แต่ฝ่ายชายแย่งลูกกลับไปได้สำเร็จและกลับเข้าไปในรถ ขับรถออกไปพร้อมลูกทั้งหมด 4 คน โดยทิ้งน.ส.วิลสันไว้ตรงนั้น น.ส.วิลสันจึงขอความช่วยเหลือให้พนักงานแมคโทร.แจ้งตำรวจให้ด้วย
อัยการระบุว่า เรื่องราวก่อนคลิปภาพนี้ นายครอสตี้บุกเข้าไปบ้านของน.ส.วิลสัน ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกๆ 4 คน โดยนายครอสตี้ปีนหน้าต่างและประจันหน้ากับน.ส.วิสสันกล่าวหาว่านอกใจ
ส่วนน.ส.วิลสันให้การว่า ตนพยายามขังตัวเองไว้ในห้องน้ำ เพื่อกันไม่ให้เข้ามา แต่นายครอสตี้ใช้กำลังผลักเข้าไปได้ พร้อมกับทุบตีตนจนตาสองข้างเป็นสีดำคล้ำ มีรอยแผลบนศรีษะ รอยกัดบนมือ จากนั้นนายครอสตี้ยังคงทุบตีต่อถึงในรถ เพราะต้องการรหัสผ่านโทรศัพท์ เพื่อดูว่าตนส่งข้อความคุยกับใคร
“เขาซ้อมฉันไม่หยุดเลย” น.ส.วิลสันกล่าวและเล่าต่อว่า ตนยอมบอกรหัสผ่านมือถือไป จากนั้นฝ่ายชายพาไปแวะที่บ้านพี่สาวของฝ่ายชาย ตนพยายามหนี จึงถูกนายครอสตี้กัด จากนั้นตนบอกนายครอสตี้ว่าลูกๆ หิว จึงไปที่ร้านแมคฯ หลัง 2 ทุ่ม
ขณะที่ทนายความของนายครอสตี้แก้ต่างให้ลูกความว่า คดีนี้เป็นเหตุการณ์ความรุนแรงภายในครอบครัวที่มีความผิดเล็กน้อย ส่วนที่นายครอสตี้ขับรถหนีไปพร้อมกับลูกๆ นั้นเพื่อคุ้มครองเด็กๆ จากน.ส.วิลสันที่มีอาการเมาสุรา
“ไม่มีการลักพาตัวเพื่อขู่ทำร้าย ไม่มีการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ไม่มีขโมย” ทนายกล่าว และว่าหลังออกจากร้านแมคฯพร้อมลูกๆ นายครอสตี้ก็พาเด็กไปฝากไว้ที่บ้านพ่อตา
ทั้งนี้ นายครอสตี้ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายขั้นร้ายแรง ขโมย ลักพาตัวเพื่อขู่ทำร้ายและเพื่อเรียกค่าไถ่
