นายพลเอดูอาโด อาโน เสนาธิการกองทัพฟิลิปปินส์ เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า การบุกยึดเมืองมาราวี ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ เป็นจุดเริ่มต้นแผนการของกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) เพื่อให้กลุ่มติดอาวุธได้รับการยอมรับในความสามารถก่อเหตุเช่นเดียวกับไอเอสในอิรักและซีเรีย โดยแผนการหลังยึดเมืองมาราวี ประกอบไปด้วยการบุกฆ่าผู้นับถือศาสนาคริสต์ในเมือง อิลิกัน ทางตอนเหนือติดกับมาราวี ในช่วงรอมฎอนนี้
อาโน ระบุว่า กองทัพฟิลิปปินส์สามารถยึดคืนเมืองมาราวีได้แล้วราว 70% และยังทำให้กองกำลังติดอาวุธที่เหลือไม่สามารถรวมกลุ่มกันได้ โดยผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เกิดเหตุบุกยึดเมืองมาราวีอยู่ที่ราว 100 คน ประกอบไปด้วยกลุ่มติดอาวุธกองทัพฟิลิปปินส์ และพลเรือน
อย่างไรก็ตาม เอพีรายงานว่า การโจมตีดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงกองกำลังที่ติดอาวุธอย่างดีและยังมีความสามารถในการต้านทานกองทัพได้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กองกำลังติดอาวุธขนาดเล็กในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียต่างเริ่มรวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่มไอเอส โดยอาโน ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธที่เข้ายึดเมืองมาราวีประกอบไปด้วยชาวมาเลเซีย 3 ราย และเป็นไปได้ที่จะรวมไปถึงชาวอาหรับ
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ฟิลิปปินส์กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางก่อการร้ายแห่งใหม่ของไอเอส โดยระบุอ้างเจ้าหน้าที่ข่าวกรองฟิลิปปินส์ไม่ระบุนามว่า กองกำลังที่ต่อสู้อยู่ในมาราวีอาจประกอบไปด้วยชาวต่างชาติราว 40 คนได้แก่ ชาวมาเลเซีย ปากีสถาน ซาอุดิอาระเบีย เชเชน เยเมน อินเดีย โมร็อกโก และตุรกี จากทั้งหมดราว 400-500 คน
ขณะเดียวกัน โรฮาน กูนารัตนา ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงจากสถาบันเอส ราชารัตนัม เพื่อการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนันยางในสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ไอเอสซึ่งกำลังพ่ายแพ้และลดขนาดลงในอิรักและซีเรียกำลังแพร่กระจายเข้ามายังเอเชียและตะวันออกกลาง
"หนึ่งในพื้นที่ซึ่งไอเอสได้ขยายเข้ามาคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฟิลิปปินส์ก็คือจุดศูนย์กลาง" กูนารัตนา กล่าว
