คลังเปิดมาตรการแบงก์รัฐ ’ผ่อนดี มีคืน’ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน
15 ธันวาคม 2564, 11:21
วันที่15 ธ.ค.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามข้อสั่งการที่ให้ทุกกระทรวงจัดของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดทำมาตรการ “ของขวัญปีใหม่” ให้ลูกค้าที่ชำระดี เพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนที่มีศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ได้มีโอกาสได้รับเงินสดกลับทันทีเพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ และเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งแต่ละธนาคารได้จัดทำรายละเอียดและเงื่อนไขที่น่าสนใจแตกต่างกัน ดังนี้ 1) ธนาคารออมสิน คืนเงิน 500 บาทให้กับลูกค้าที่มีประวัติการชำระดีต่อเนื่อง 3 ปี ภายใต้เงื่อนไขสัญญาสินเชื่อไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากนี้ยังจัดแคมเปญเงินฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี (ช่วงปีใหม่) ตั้งแต่วันนี้ – 29 ธ.ค. 65 โดยกำหนดรางวัลพิเศษ 1 ล้านบาท จำนวน 20 รางวัล 2) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จัดโครงการชำระดีมีคืน ในวงเงิน 1,200 ล้านบาท โดยคืนดอกเบี้ย 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง ไม่เกิน 1,000 บาท และโครงการ “นาทีทองลูกค้า NPLs” โดยการลดดอกเบี้ย เมื่อลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยตามอัตราการลดดอกเบี้ยงของโครงการ ตั้งแต่ 10-50 % ทั้ง 2 โครงการ ภายในวันที่ 15 ธ.ค. 64 - 31 มี.ค. 65 3) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ 2565 สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านของ ธอส. ที่มีวินัยในการผ่อนชำระ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มชำระดี 48 เดือน (นับถึงงวดเดือน พ.ย. 2564) ได้รับเงิน 1,000 บาท ภายใต้เงื่อนไขวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ชำระเงินกุ้ผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ในงวดเดือน พ.ย.-ธ.ค. 64 หรือกรณีลูกค้าสวัสดิการหักเงินเดือนผ่อนชำระผ่านหน่วยงาน และ 2) กลุ่มชำระดี 43 เดือน ได้รับเงิน 500 บาท ภายใต้เงื่อนไขชำระเงินกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น GHB ALL ในงวดเดือน ธ.ค. 2564 - ม.ค. 65 หรือกรณีลูกค้าสวัสดิการหักเงินเดือนผ่อนชำระผ่านหน่วยงาน “มาตรการของขวัญปีใหม่ เป็นความร่วมมือจากธนาคารของรัฐตามการสั่งการของ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนไทยมีความสุขโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งไม่ได้มีการจัดงานติดต่อกัน 2 ปีแล้ว และปีนี้เป็นปีที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มฟื้นตัว มีการเปิดประเทศและประชาชนเริ่มออกมาใช้ชีวิตแบบ New Normal ท่านนายกฯ กำชับทุกกระทรวงให้จัดเตรียมมาตรการ/โครงการต่างๆ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ในส่วนมาตรการด้านการเงินครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญให้กับประชาชนที่มีวินัยในการชำระหนี้ และยังมีเงินรางวัลพิเศษให้ประชาชนได้ลุ้นรับโชคเงินล้านกันในช่วงปีใหม่ด้วยเป็นการมอบความสุขอีกทาง” นายธนกรฯ กล่าว อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก







แพทย์ร่วมไขข้อสงสัย ผมร่วงเป็นหย่อมหลังฉีดวัคซีนโควิด-19
24 พฤศจิกายน 2564, 11:57
จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีความเป็นได้ว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจจะกระตุ้นทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนบางรายเกิดอาการของโรคผมร่วงเป็นหย่อม ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกช่วงอายุ ผู้ป่วยมีอาการผมร่วง เป็นหย่อม ๆที่ศีรษะ โดยอาจจะมีขนร่วงที่บริเวณอื่นร่วมด้วย เช่น คิ้ว หนวด จอนหรือขนตามร่างกาย ในรายที่เป็นมาก อาจมีอาการผมร่วงทั่วศีรษะหรือขนตามร่างกายร่วงจนหมด โดยทั่วไปโรคผมร่วงเป็นหย่อมนี้ เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุแน่ชัด แต่จากหลักฐานทางการศึกษาเชื่อว่าเกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต้านตนเอง ร่วมกับมีการเสียการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจมีปัจจัยทางกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้อง โดยร่างกายอาจถูกกระตุ้นได้จากปัจจัยบางอย่าง เช่น ความเครียดทั้งจากภาวะการเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจ ทำให้มีการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวและสารสื่อประสาทที่บริเวณต่อมผม จึงทำให้การสร้างผมผิดปกติและวงจรชีวิตของผมเปลี่ยนจากระยะเจริญเติบโตเป็นระยะหลุดร่วงเร็วขึ้น พญ.ชินมนัส เลขวัต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาวะผมร่วงเป็นหย่อมภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ยังจำเป็นที่จะต้องรอผลการศึกษามากกว่านี้ ในเรื่องอุบัติการณ์การเกิด หลังจากการฉีดวัคซีนเนื่องจากวัคซีน ใช้กระบวนการที่เลียนแบบการสร้างภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นอาจมีการกระตุ้นการเกิดภูมิคุ้มกันต้านตนเองและเกิดปฏิกิริยาอักเสบที่บริเวณต่อมผม ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมได้ ซึ่งในปัจจุบันพบรายงานการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม ที่กลับมาเป็นซ้ำหลังจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีความเป็นไปได้ที่โรคผมร่วงเป็นหย่อมจะเกิดขึ้นใหม่หรือในผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่เป็นมากอยู่แล้วจะเกิดมีอาการมากขึ้นหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว หลังจากมีการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานการศึกษาผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวมากพอที่จะสรุปผลได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคผมร่วงเป็นหย่อมที่เป็นน้อยไม่พบว่ามีอาการมากขึ้น ภายหลังการติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ยังพบว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อม อาจเกิดภายหลังการฉีดวัคซีนอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น วัคซีนงูสวัด, วัคซีนไวรัส ตับอักเสบบีและวัคซีนโรคไข้สมองอักเสบเจอี โดยจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคผมร่วงเป็นหย่อมร่วมด้วย เช่น ปัจจัยทางกรรมพันธุ์, ความเครียด, การเจ็บป่วย, โรคภูมิแพ้, โรคไทรอยด์, โรคลูปัส, ภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก, ภาวะการขาดวิตามินดี ซึ่งการดูแลและรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมภายหลังการฉีดวัคซีนหรือหลังการติดเชื้อโควิด-19 ควรจะรักษาตามมาตรฐานของการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม โดยการรักษาขึ้นกับขนาดพื้นที่ของผมร่วงที่ศีรษะ ในผู้ป่วยที่มีอาการน้อย มีผมร่วงเป็นหย่อมเพียงเล็กน้อย อาการผมร่วงอาจหายได้เองหรือไปรับการรักษากับแพทย์เฉพาะทาง ด้วยการทายาสเตียรอยด์หรือฉีดยาสเตียรอยด์ที่ศีรษะร่วมกับการทายาไมน็อกซิดิล (Topical minoxidil) 2-5% วันละ 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นผมให้ขึ้นใหม่ สำหรับในผู้ป่วยที่มีอาการมาก มีผมร่วงทั่วศีรษะหรือมีขนตามร่างกายร่วงด้วย ควรจะพบแพทย์เพื่อพิจารณาหาวิธีการรักษา เช่น การรักษาด้วยยาทาไดฟีนิลไซโคล, โพรพีโนนหรือ ยาทาดีพีซีพี หรือยาชนิดอื่น ๆ ตามที่แพทย์เฉพาะทางพิจารณา นอกจากนี้การรับประทานเหล็กและวิตามิน เช่น สังกะสี (Zinc), ไบโอติน (Biotin), วิตามินดี (Vitamin D) ยังไม่มีหลักฐานทางการศึกษาชัดเจนว่าจะมีส่วนช่วยรักษาในผู้ป่วยที่ไม่ได้มีภาวะขาดเหล็กหรือวิตามิน เปิดใจนักศึกษาเศร้า แพ้วัคซีนผมร่วงหมดหัว ด้าน รศ.นพ.รัฐพล ตวงทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันของโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบมากมายให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพจิตที่ย่ำแย่จากการวิตกกังวลและความเครียดที่มีมากเกินไป ย่อมส่งผลเสียตามมากับการใช้ชีวิตประจำวันของคนในสังคม โรคผมร่วงเป็นหย่อมเป็นอีกโรคที่มีความสัมพันธ์กับความเครียด การพักผ่อนน้อย การไม่สบายอื่น ๆ นำมาก่อน เช่น ภาวะโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองอื่น ๆ อาทิ โรคเอสแอลอี (SLE), โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากการที่เม็ดเลือดขาวของคนไข้มาทำลายรากผม ทำให้ผมหลุดร่วงเป็นหย่อม อาจจะเริ่มจากหย่อมเดียว ( Alopecia areata) กระจายหลาย ๆ หย่อม (Multiple alopecia areata) ผมร่วงทั้งศีรษะ(Alopecia totalis) หรือมีขนตามร่างกายร่วงทั้งหมด (Alopecia Universalis) สาเหตุของการเกิดโรคเชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เม็ดเลือดขาว ซึ่งเดิมมีหน้าที่ทำลายเชื้อโรคต่าง ๆ กลับมาทำลายเซลรากผมของคนไข้เอง โรคผมร่วงเป็นหย่อม สามารถเกิดได้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยจะพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โอกาสพบได้ประมาณ 1 ใน 1,000 ของจำนวนประชากร ซึ่งการวินิจฉัย ตามปกติโรคนี้สามารถวินิจฉัยได้จากอาการแสดงทางคลินิก คือ มีผมร่วงเป็นหย่อม ลักษณะของผมร่วงเป็นผมร่วงแบบไม่มีแผลเป็น (Non-scarring alopecia) อาจมีหย่อมเดียว หลายหย่อม ทั่วทั้งศีรษะหรือมีขนคิ้ว ขนตา ขนรักแร้ ขนตามตัวต่าง ๆ ร่วงด้วยก็ได้ ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องได้รับการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อยืนยันการวินิจฉัยด้วย โดยการดำเนินโรคส่วนหนึ่งสามารถหายขาดได้ ส่วนหนึ่งจะเป็นเรื้อรังและอีกส่วนหนึ่งจะไม่หายถึงแม้ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่แล้ว อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก