มาเดินกันเถอะ นักวิทย์ชี้ลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์

สหรัฐอมเริกา - การเดินวันละ 30 นาที เพียงสี่ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วยป้องกันผู้สูงอายุจากการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้

โพสต์ทูเดย์

วันเสาร์ ที่ 20 พฤษภาคม 2560, เวลา 16:00 น.

ผลการศึกษาใหม่จากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์เปิดเผยว่า การเดินอย่างสม่ำเสมอนั้นช่วยพัฒนาระบบเครือข่ายประสาทของร่างกาย ในผู้สูงอายุ และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสติปัญญาถดถอย และโรคอัลไซเมอร์ได้

ผลการศึกษานี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Alzheimer's Diseasr ระบุว่า การเดินเป็นระยะเวลา 30 นาที 4ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยพัฒนาการทำงานของระบบประสาทภายในร่างกาย รวมถึงการทำงานของสมอง

"สมองส่วนที่เรียกกันว่าโพสทีเรียซิงกูเลทคอร์เท็กซ์ (Posterior Cingulate Cortex) เป็นศุนย์รวมของเครือข่ายประสาท และทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย" ด็อกเตอร์ เจ. คาร์สัน สมิท ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการ Exercise for Brain Health และหัวหน้างานวิจัยครั้งนี้กล่าว "เราค้นพบว่าการสูญเสียการเชื่อมโยงกันของระบบประสาท นำไปสู่การสูญเสียความทรงจำตามมา ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของอาการสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์"

จากการศึกษา ทีมนักวิจัยได้ทำการทดสอบกับผู้เข้ารับการทดลองจำนวน 32 คน ที่มีอายุในช่วงวัย 60 - 88 ปี ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งถูกวินิจฉัยว่ามีอาการสมองเสื่อม ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นมีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ ทุกคนได้รับคำสั่งให้ออกกำลังกายด้วยการเดินเป็นระยะเวลา 30 นาที สี่ครั้งต่อสัปดาห์ นานติดต่อกัน 3 เดือน

หลังการทดลองทีมนักวิจัยได้ทำการสแกนสมองของพวกเขาอีกครั้ง เพื่อเปรียบเทียบกับผลการสแกนก่อนหน้า การทดสอบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งผู้ป่วยสมองเสื่อม และผู้มีสุขภาพแข็งแรงดีมีความสามารถในการจดจำที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีสัญญาณความเจ็บป่วยทางสมองนั้น มีระบบประสาทที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ขณะนี้ทางทีมนักวิจัยยังไม่ได้รับคำตอบแน่ชัดว่าผลของการออกกำลังกายนั้นส่งผลกระทบต่อสมอง และระบบประสาทของผู้สูงอายุได้อย่างไร อย่างไรก็ตามจากการวิจัยพวกเขาแนะนำให้ผู้สูงอายุหมั่นออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อสมอง และระบบประสาทเสื่อมถอยไปตามวัย

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่