เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนคงจะได้เห็นคลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดียถึงราคาที่แพงเกินจริงของ “ยำ” ร้านหนึ่งที่ป่าตอง ซึ่งเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายถึงการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
ดิฉันอยากจะบอกว่าดิฉันเองก็โดนมาเหมือนกัน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาดิฉันนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ที่ร้านอาหารฝรั่งแห่งหนึ่งในพื้นที่ป่าตอง สักพักมีรถพ่วงข้างขายยำเจ้าหนึ่งขับผ่านมา ในใจเกิดนึกอยากกินก็เลยเรียกให้จอดและสั่งยำปูม้า โดยสั่งเพิ่มหอยนางรมและไข่เยี่ยวม้าเข้าไปในอาหารจานแซ่บ
วันนั้นฉันเป็นคนแรกที่สั่งอาหารจากพ่อค้าคนนั้น และหลังจากนั้นก็มีสาวๆ จากร้านใกล้เคียงออกมาสั่งเพิ่มเติม 2-3 คน แต่ฉันก็กลายเป็นคนสุดท้ายที่ได้อาหาร เรื่องรอไม่เท่าไหร่ แต่ราคาอาหารนี่ถึงกับช็อค เพราะราคานั้นอยู่ที่ 280 บาทและได้ไข่เค็มมาแทนไข่เยี่ยวม้า(โดยที่ไม่ได้ถามฉันสักคำว่าขอเปลี่ยนได้ไหม)
ฉันได้แต่มองแล้วก็คิดถึงต้นทุนที่มาของวัตถุดิบแต่ละอย่างในจาน ซึ่งไม่น่าจะแพงจนเรียกราคาได้ขนาดนี้ ที่สำคัญแม้ว่าจะขายในพื้นที่ป่าตอง แต่คุณไม่ได้เช่าที่เพราะคุณขับรถเร่ขาย ราคาอาหารทุกวันนี้แพงขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงทุเรียนที่แพงจนคนไทยหลายคนปฏิเสธที่จะกิน ฉันได้แต่คิดใคร่คราญว่าชาตินี้จะต้องต่อสู้ดิ้นรนปากกัดตีนถีบหาเงินให้ได้เดือนละเท่าไหร่ จึงจะมีพอกินยำและทุเรียนในภูเก็ตหนอ หรือฉันควรจะผันตนมาเป็นแม่ค้าขายยำเสียเอง ทั้งได้ทำกินเองและยังได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ อาจจะรวยไปเลยด้วยซ้ำเพราะขายยำได้ราคาแพงถึงขนาดนี้