ณ ดินแดนต้องห้ามแห่งนั้น รถของฉันโดนถีบ

วันหนึ่ง ฉันขับรถไปทำงานในพื้นที่ป่าตองเพื่อทำธุระ ฉันได้ขับรถวนป่าตองหนึ่งรอบเพื่อหาที่จอดรถตั้งแต่บริเวณถ.ไสน้ำเย็นไปจนถึงข้างรร.ฮอลิเดย์ อินน์ และมองหาที่จอดบริเวณทางซ้ายของถนน (บริเวณติดหาด) แต่ไม่ที่วางให้จอดเลยซักที่ย้อนกลับมาใหม่อีกรอบและเริ่มมองหาที่จอดฝั่งขวาที่ “ไม่ควรจอด”

ข่าวภูเก็ต

วันอาทิตย์ ที่ 30 กรกฎาคม 2560, เวลา 09:00 น.

เพราะดินแดนแห่งนั้นเรารู้กันดีว่ามีพี่ๆ ตุ๊กตุ๊กแท็กซี่ยึดครองเพื่อจอดรอรับแขก แต่วันนั้นฉันหาที่จอดไม่ได้จริงๆ ก็เลยต้องจอดในดินแดนต้องห้ามแห่งนั้น เพราะโดยพื้นฐานของความเป็นจริงแล้ว ที่จอดรถบริเวณนั้นก็คือที่จอดรถสาธารณะ ที่พวกเราชาวบ้านทั่วไปสามารถจอดกันได้โดยที่ไม่ต้องขออนุญาตใคร

ฉันเองได้รับทราบและติดตามการดำเนินการจัดระเบียบคืนพื้นที่จอดรถสาธารณะอย่างใกล้ชิด โดยส่วนตัวแล้วฉันเห็นใจทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวเองในฐานะประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการที่ต้องการที่จอดรถเพื่อทำมาหากิน แต่ทุกคนควรจะสำนึกไม่ใช่หรือว่าที่แห่งนี้เป็นที่สาธารณะ ไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาครอบครองได้และที่สำคัญอะไรคือเครื่องรับรองว่าใครคนหนึ่งสามารถทำลายทรัพย์สมบัติของผู้อื่นโดยที่ไม่มีความผิด

ในขณะที่ฉันกำลังทำการจอด ได้มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งแต่งตัวดีที่ยืนอยู่บริเวณนั้นได้มองหน้าฉันแต่ไม่ได้มีท่าทีเคืองโกรธอะไร ฉันลงรถไปและมองหน้าเขาอีกเพื่อจะสังเกตดูว่าจะมาห้ามเราไม่ให้จอดหรือเปล่า แต่ก็ยังดูไม่มีท่าทีห้ามปรามหรือจะมีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังใดๆ

ฉันจึงเดินออกไปธุระบริเวณหน้าหาดป่าตองเป็นเวลาร่วม 3 ชั่วโมงและได้กลับมาที่รถของตัวเอง พบว่าที่รถมีรอยรองเท้าประทับและมีรอยบุบอยู่บริเวณประตูที่นั่งด้านหลังทางขวา ฉันมั่นใจว่ารอยนั้นเพิ่งเกิดหลังจากที่ฉันจอดรถแน่ๆเพราะฉันเพิ่งล้างรถด้วยตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุ

ฉันสังเกตดูผู้คนบริเวณรอบข้าง พบว่าชายคนที่มองหน้าฉันก่อนหน้านั้นได้หลบสายตา แต่เมื่อฉันหันมามองในกระจกมองหลัง ฉันก็เห็นเขามองฉันอยู่ เสียงลือเสียงเล่าอ้างที่เคยได้ยินมาทำให้ฉันรู้ว่ารถฉันคงโดนเหมือนที่คนอื่นๆเขาโดนเข้าเสียแล้ว

หลังจากเกิดเหตุฉันได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารได้ทราบ และทางเจ้าหน้าที่เองได้ประสานไปยังสภ.ป่าตองเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ก็กลับเข้าสู่วังวนเดิมๆกับเหตุผล “กล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้” เหตุผลอมตะนิรันดร์กาลที่จะครองอยู่บนแผ่นดินไทยตราบนานเท่านานเหมือนนิยายคู่กรรมที่รีเมคซ้ำแล้วซ้ำอีก

ฉันไม่มีหลักฐานใดที่จะไปปรักปรำเจ้าของตราประทับเท้าบนประตูรถของฉันเนื่องจากกล้องวงจรปิดเสีย รถฉันบุบ ฉันต้องเสียเงินซ่อมเอง ฉันไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าหากพื้นที่ตรงนั้นห้ามรถทั่วไปจอด ทำไมไม่บอกกล่าวกันดีๆด้วยการถ้อยทีถ้อยอาศัย การกระทำแบบนี้นั้นส่อให้เห็นว่าการแต่งกายดีๆนั้นสวนทางกับความประพฤติอย่างแท้จริง รถตู้ทันสมัยที่เขาขับนั้นไม่เหมาะสมกับเขาเลยสักนิดเขาเหมาะที่จะเดินด้วยเท้าเปล่ามากกว่าเพราะการกระทำที่เขาทำนั้นไม่ต่างจากการกระทำของกลุ่มคนที่อยู่ในยุคที่อารยธรรมยังไม่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก

เพราะอะไร คนคนหนึ่งถึงคิดว่าตนมีสิทธิ์จะยกเท้าขึ้นมาถีบรถใครก็ได้เมื่อไม่พอใจ เพราะอะไรเขาถึงไม่เลือกที่จะบอกกล่าวกันดีๆ หากมีใครทำแบบนี้กับเขา เขาจะรู้สึกอย่างไร ทำไมในยุคแห่งการที่ทุกคนอยากพัฒนาตนให้ตามเทคโนโลยี ใช้โทรศัพท์แพงๆ ใช้แอพพลิเคชั่นที่คนอื่นเขาใช้กัน แต่ลึกลงไปภายในใจนั้นยังเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและเห็นแก่ตัว หากประชากรครึ่งหนึ่งของประเทศเป็นแบบนี้ บ้านเมืองจะพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างไร?

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่