ท่องเที่ยวซบเซา โรงแรมภูเก็ตแห่ขายกิจการ

ตั้งแต่ปี 2559 โรงแรมภูเก็ตก็มีการประกาศขายอย่างต่อเนื่อง ขณะนั้นหลายฝ่ายมองว่า ไม่ได้เป็นเพราะแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวไม่ดี แต่ขายเนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองว่าขณะนี้ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจนมาถึงจุดที่เหมาะสมที่สุดที่ขายแล้วได้กำไร กระทั่งถึงปัจจุบัน ข้อมูลการประกาศขายโรงแรมและรีสอร์ทใน จ.ภูเก็ต พบว่า มีมากถึง 74 แห่ง ราคาตั้งแต่ 60-3,000 ล้านบาท

โพสต์ทูเดย์

วันอาทิตย์ ที่ 6 สิงหาคม 2560, เวลา 12:00 น.

นายกฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า โรงแรมขนาดเล็กจะมีปัญหารายได้พอสมควร โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต ส่วนใหญ่เป็นเอเชีย จีน

“เป็นไปได้ว่าหลายโรงแรมหาทางอยู่รอด โดยในภูเก็ตมีจำนวนโรงแรมจำนวน 2,000 แห่ง มีห้องพักประมาณเกือบ 2 แสนห้อง ขณะนี้เศรษฐกิจภูเก็ตไม่ได้ซบเซามากนัก เพียงแต่ไม่บูมเช่นปี 2554 และปี 2555 ช่วงหลังมานี้นักท่องเที่ยวพอมี แต่ราคาห้องพักลดต่ำลง ทำให้โรงแรมเล็กแข่งขันเรื่องราคากับโรงแรมขนาดใหญ่ไม่ได้ ทำให้ประสบปัญหาเหมือนกัน การเข้ามาสู่ธุรกิจโรงแรมต้องรอบคอบมีสายป่านยาว มีการตลาดดี ถ้ารายได้ไม่ดี ก็มีการขายโรงแรม”

นายกฤษฎา มองว่า สำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อต่อโรงแรมในภูเก็ต ต้องมีทุนมากพอที่สามารถต่อธุรกิจนี้ได้ ต้องมีการตั้งต้นที่ดีถ้าทำตามกระแสเกิดปัญหาได้ ถ้าสายป่านไม่ยาวมีปัญหาได้ โรงแรมหลายแห่งในป่าตอง บริเวณถนนผังเมืองสาย ก และด้านในของป่าตอง มีการประกาศขายโรงแรมกันพอสมควร

“โรงแรมระดับเชน และระดับ 4 ดาว มีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่โรงแรมขนาดเล็กไม่เชี่ยวชาญตลาด มีปัญหาแขกเข้าพัก ซึ่งการประกาศขายโรงแรมในภูเก็ต มีมาตั้งแต่กลางปี 2559 ส่วนหนึ่งสถาบันการเงินเร่งรัดติดตามหนี้สินมาพอสมควร เป็นปัญหาเรื้อรังที่ลงทุนผิดรูปแบบตั้งแต่ต้น ประกอบกับรายได้ไม่ดีมากจึงอยู่ยากและประกาศขาย” นายกฤษฎา กล่าว

ด้าน นายสมพร นวลศรี ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่า การขายโรงแรมและรีสอร์ทในภูเก็ตเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจซบเซาลง มีการประกาศขายกิจการมากกว่าภาวะเดิมเล็กน้อย

“การปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคารต่างๆ เข้ากระบวนการบังคับคดี มีการขายทอดตลาดทรัพย์จำนวนมาก แต่ภาพรวมของโรงแรม รีสอร์ทในภูเก็ต ที่ก่อสร้างใหม่และใช้สินเชื่อของ 18 ธนาคารในภูเก็ตมี 1.5% ซึ่งการประกาศขายกิจการนั้น บางส่วนเพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงการลงทุน จากเงินฝากหรือกองทุน มาเป็นกว้านซื้อที่ดิน หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากกรุงเทพฯ มีคนท้องถิ่นบางส่วน และคนต่างชาติ ที่เปลี่ยนแปลงการลงทุนเป็นอสังหาฯ มากกว่าเดิม 30% เพราะทำกำไรได้มากกว่าเงินฝาก”

นายสมพร มองว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีของผู้ซื้อที่จะได้เลือกโรงแรม รีสอร์ท ที่ดิน แต่ต้องมีการตรวจสอบเอกสารสิทธิให้รอบคอบ คาดว่าถ้าเศรษฐกิจขยับตัวดีขึ้น ภูเก็ตจะไปเร็วกว่าจังหวัดอื่น 10-15%

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลในเว็บไซต์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ พบว่า มีการประกาศขายโรงแรมและรีสอร์ทใน จ.ภูเก็ต เป็นจำนวนมาก เช่น รีสอร์ทระดับ 5 ดาว เกาะสิเหร่ เนื้อที่ 35 ไร่ พร้อมห้องพัก 257 ห้อง ราคาขาย 4,500 ล้านบาท รีสอร์ทระดับ 5 ดาว หาดป่าตอง ห้องพัก 346 ห้อง เนื้อที่ 26 ไร่ ราคาขาย 5,800 ล้านบาท

รีสอร์ทระดับ 4 ดาว มีชื่อเสียงมายาวนานบนหาดป่าตอง ห้องพัก 180 ห้อง ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจ ท่องเที่ยว ห้องอาหาร เนื้อที่ 9 ไร่ ราคาขาย 3,200 ล้านบาท รีสอร์ทระดับ 4 ดาว หาดกะตะ ใกล้ทะเลพร้อมวิวเนินเขา ห้องพักหรู 140 ห้อง เนื้อที่ 9 ไร่ ราคาขาย 1,800 ล้านบาท

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่