บรรยากาศที่ท้องสนามหลวง โดยเมื่อวันที่ 5 ตค. 60 เป็นวันสุดท้ายก่อนปิดให้ขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง หลังจากสำนักพระราชวังจะปิดในเวลา 24.00น.ของคืนวันที่ 5 ต.ค. 2560 ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลมายังบริเวณสนามหลวง เพื่อรอต่อแถวขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ
ทั้งนี้ ภายหลังจากประชาชนกลุ่มสุดท้ายเดินทางเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ แล้ว กลุ่มจิตอาสา มูลนิธิที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้เดินเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นกลุ่มสุดท้ายในช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ส่วนประชาชนที่เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ กลุ่มสุดท้ายได้เดินทางออกมาจากพระบรมมหาราชวัง หลังกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ หลังช่วงเวลา 02.40 น.
ขณะที่ บริเวณด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี ประชาชนจำนวนมากได้มานั่งรอและมองเข้าไปภายในพระบรมมหาราชวัง โดยต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนเดินทางกลับ
ด้าน พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ กอร.รส. ลงพื้นที่ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยในการอำนวยความสะดวกประชาชน ที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันสุดท้าย
พร้อมกล่าวว่าภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งหลังประชาชนเข้ากราบพระบรมศพฯชุดสุดท้ายแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้เข้าปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคล ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออก โดยตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป จะมีการจัดกำลังร่วมทหารตำรวจ 1,067 นาย ลงพื้นที่เพื่อควบคุมดูแลความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้การเตรียมงานพระราชพิธีเป็นไปอย่างเรียบร้อยสมพระเกียรติมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังปิดไม่ให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพแล้วเจ้าหน้าที่ กทม. และฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้ารื้อเต็นท์ เก้าอี้ สิ่งกีดขวางต่างๆ และเริ่มตีเส้นจราจรโดยรอบพระบรมมหาราชวังและทำความสะอาดพื้นที่ทันที เพื่อคืนพื้นที่ให้สำนักพระราชวัง เพื่อเตรียมงานพระราชพิธีต่อไป
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 5 ต.ค.จนถึงเวลา 02.18 น. ของวันที่ 6 ต.ค. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 110,889 คน รวม 337 วัน มี 12,739,531 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 7,016,818 บาท รวม 337 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 889,545,100.01 บาท
