ครบรอบ 1 ปี วันที่เศร้าที่สุดในความทรงจำของปวงชนชาวไทย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 เป็นวันแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพสกนิกรชาวไทย ประชาชนชาวไทยต่างร่ำไห้เมื่อได้ทราบข่าวการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม 2560, เวลา 15:00 น.

เช่นเดียวกับฉัน ความทรงจำในวันนั้นยังคงชัดเจน ฉันจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันสอบวิชาสำคัญของฉัน ซึ่งเช้าวันนั้นฉันก็รู้สึกแปลกๆ คล้ายว่าจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ บ่ายวันนั้นเองหลังจากฉันสอบเสร็จ ฉันและเพื่อนก็รวมกลุ่มคุยกันปกติ จากนั้นก็มีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “ทุกคนในหลวงสวรรคตแล้ว อาเราส่งข่าวมาบอกในไลน์” ซึ่งตอนนั้นทุกคนก็ไม่อยากจะทำใจยอมรับ และคิดว่าเป็นข่าวปลอมหรือเปล่า เพราะตอนนั้นยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกมา เพื่อนคนนั้นก็บอกอีกว่า “เรื่องจริงพวกแก นี่อาเราอยู่วงในข่าวนี้มาพร้อมกับประกาศคำแถลงการณ์ที่ส่งกันในไลน์วงใน”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นบรรยากาศก็เงียบสนิท รับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจ น้ำตาคลอโดยไม่ต้องรอคำแถลงการณ์ ได้แต่ตั้งคำถามว่า นี่เรื่องจริงใช่ไหม ไม่เกิดขึ้นได้ไหม ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย เย็นวันนั้นเมื่อคำแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการณ์มันช่างเป็นวันที่เงียบสนิท และเศร้าที่สุดในความทรงจำ ทั้งในโซเชี่ยลมีเดียก็เต็มไปข่าวการเสด็จสวรรคตของพ่อแห่งคนไทยทั้งแผ่นดิน

จากวันนั้นมาถึงวันนี้พ่อได้จากเราไปแล้วครบ 1 ปี สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ นำคำสอนของพ่อมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตให้ได้มากที่สุด อย่างเรื่องง่ายๆ ที่สุดที่เราทุกคนควรทำนั่นคือ การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เช่น ช่วงนี้เราจะเห็นดอกดาวเรืองประดับประดาเต็มไปหมด ซึ่งหลายๆ บ้านก็คงคิดว่าต้องไปซื้อต้นดาวเรืองมาประดับประดาหน้าบ้าน ซึ่งทางร้านขายต้นไม้เขาอาจเห็นว่าเป็นโอกาสดีของเขาที่จะขึ้นราคาต้นดาวเรือง เนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาต้นดาวเรืองจึงแพงกว่าปกติ

แต่ฉันคิดว่าการที่เราต้องไปซื้อต้นดาวเรืองมาประดับหน้าบ้าน เพื่อแสดงออกถึงความรักต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนั้น ไม่น่าจะตรงตามหลักคำสอนของพระองค์สักเท่าไหร่ ฉันคิดว่าถ้าเราปลูกมันเองจะเป็นการทำตามคำสอน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงมากกว่า

อย่างเช่นพ่อของฉันเองท่านก็ปลูกต้นดาวเรืองไว้ที่หน้าบ้านถึงขณะนี้ดอกมันยังไม่บาน พ่อก็ได้แต่ลุ้นว่ามันจะบานทันวันที่ 26 ตุลาคมหรือเปล่า ถึงแม้ว่ามันจะบานไม่ทันพ่อฉันเองก็ภูมิใจแล้วที่ได้เดินตามรอยคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ฉันคิดว่านี่เป็นคำสอนที่ง่ายๆแต่มีประโยชน์ที่สุดในชีวิตหากทุกคนทำได้ และคำสอนนี้ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังนำไปปฏิบัติได้เสมอ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่