แผ่นดินของพ่อ

บทความ - เช้าวันที่ 13 ตุลาคม 2560 ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงเพลงของพ่อ “ยามเย็น” เสียงเพลงยิ่งทำให้คิดถึงพระองค์ท่านมากเป็นเท่าทวีคูณ เพราะในวันนั้นคือวันครบรอบ 1 ปี ที่พระองค์ท่านเสด็จสวรรคต

พนิดา บัณฑิตบวร

วันอาทิตย์ ที่ 22 ตุลาคม 2560, เวลา 09:00 น.

ภาพประกอบ โดย ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

ภาพประกอบ โดย ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

ฉันตั้งใจว่าจะไปพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่วัดใกล้บ้านแต่บรรยากาศช่างไม่เป็นใจ ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแทบไม่มีแดดให้เห็นเลยทีเดียว ฉันยังคงนอนฟังเพลงของพ่อไปเรื่อยๆ เพลงทุกเพลงช่างไพเราะเเละมีความหมายที่ลึกซึ้งเสียเหลือเกิน มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจ ระคนกับความภาคภูมิใจ และรู้สึกคิดถึงพระองค์ท่านอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้ยินเนื้อร้องของเพลง “แผ่นดินของเรา” ที่ว่า

 ถึงอยู่แคว้นใด ไม่สุขสำราญ

เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี

ทรัพย์จากผืนดิน สินจากนที

มีสิทธิ์เสรี สันติครองเมือง

เรามีป่าไม้อยู่สมบูรณ ไร่นาสดใสใต่ฟ้าเรือง

โบราณสถานส่งนามประเทือง

เกียรติเมืองไทยขจรไปทั่วแดนไกล

รักชาติของเรา ไว้เถิดผองไทย

ผืนแผ่นแหลมทอง รวมพี่รวมน้องด้วยกัน

รักเกียรติรักวงศ์ เสริมส่งสัมพันธ์

ทูนเทิดเมืองไทยนั้น ให้ยืนยง

 มันก็ทำให้รู้สึกว่า การเกิดบนแผ่น ดินไทยนี้นับว่าเป็นโชคดีที่สุดเเล้ว เราเกิดมาบนผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ เพียงแค่คนไทยรักและสามัคคีกันแผน่ ดินของเราก็จะน่าอยู่ตลอดไป

จนถึงช่วงเย็นวันนั้น ฉันเองไม่ได้ไปร่วมพิธีเพราะมีฝนตกลงมาปรอยๆ เลยเปิดโทรทัศน์ดูการถ่ายทอดสดจากที่สถานต่างๆ ประชาชนในทุกจังหวัดพร้อมใจกันร่วมบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระผู้เป็นพ่อแห่งแผ่นดิน โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นที่ประทับของพระองค์ก่อนเสด็จสวรรคต ได้มีประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

และฉันได้ดูการปาฐกถาของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ผู้ถวายงานการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในหัวข้อ ในหลวงแห่งแผ่นดิน ความโดยสรุปว่า “พระราชดำรัสของพระองค์ตลอดระยะเวลา 70 ปี มีโครงการพระราชดำริกว่า 4,700 โครงการ

เฉลี่ยปีละ 50 โครงการ ซึ่งปีละ 8 เดือนพระองค์จะทรงประทับอยู่นอกกรุงเทพฯ เพื่อทรงงานไปในถิ่นทุรกันดาร เพราะพระองค์เคยตรัสว่าเราจะครองแผ่นดินโดยธรรม ด้วยความรัก ความเมตตา ความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงเป็นประมุขของประเทศที่สูงส่งเพียงอย่างเดียว แต่พระองค์ท่านดูแล ดิน นํ้า ลม ไฟ และชีวิตของประชาชน พระองค์ทรงงานไม่มีกลางคืน ไม่มีเสาร์อาทิตย์ เพื่อประชาชนของพระองค์ และ 4 เดือนที่ประทับอยู่กรุงเทพ แม้ประชวรก็ยังทรงแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ในวันที่จะต้องผ่าตัด ทรงรับสั่งให้นำคอมพิวเตอร์มาไว้ที่ข้างเตียง พระองค์ไม่เคยห่วงพระวรกาย แต่อุทิศพระวรกายเพื่อประชาชน”

จะมีพระราชาพระองค์ใดที่ทำเพื่อประชาชนไดถึ้งเพียงนี้ ฉันจึงอยากใหทุ้กคนรับรู้สิ่งนี้ไว้เป็นเครื่องเตือนใจ เพื่อให้ทุกคนช่วยกันดูแลประเทศของเราให้ดีที่สุด ในวันที่พระองค์ไม่ได้อยู่กับพวกเราอีกแล้ว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่