ที่จุดเกิดเหตุเครื่องบินเล็ก Jubiru 450 ตก หลังหมู่บ้านเพลินจันทร์ ม.2 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง (อ่านเพิ่มเติม คลิก) คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุ กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สายตรวจ ต.ป่าคลอก สภ.ถลาง และนักศึกษาสาขาช่างอากาศยาน วิทยาลัยเทคนิคถลาง พร้อมรถเครนและรถบรรทุก เข้าทำการถอดชิ้นส่วนเครื่องบินลำที่เกิดเหตุด้วยความระมัดระวัง โดยมีการถ่ายภาพ และบันทึกร่องรอยความเสียหายอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ก่อนใช้รถเครนยกใส่รถบรรทุกเดินทางไปเก็บที่วิทยาลัยเทคนิคถลางชั่วคราว รอการสอบสวนหาสาเหตุ
หัวหน้าชุด คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุ (ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ ) กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายซากเครื่องบินดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุ กระทรวงคมนาคมเข้าทำการตรวจสอบเก็บหลักฐานแล้วเสร็จ จึงต้องนำซากดังกล่าวไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เผื่อว่ามีข้อสงสัยใด ๆ ก็จะสามารถกลับมาตรวจสอบเพิ่มเติมได้ โดยที่เลือกวิทยาลัยเทคนิคถลางเนื่องจากมีความพร้อมที่สุด และเจ้าของสถานที่ยินยอมให้ใช้เก็บ
ในส่วนของการสอบสวนนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังต้องรวบรวมข้อมูลอีกหลายส่วน ทั้งผลชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ข้อมูลจากพิสูจน์หลักฐาน การสอบปากคำ ผู้เห็นเหตุการณ์ หรือ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะนำข้อมูลนั้นกลับไปเข้าที่ประชุม ก่อนจะใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกจำลองสถานการณ์ รวมถึงต้องเชิญบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินซึ่งเป็นของประเทศออสเตรเลีย มาตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ ซึ่งไม่สามารถประมาณการได้ว่าจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนได้เมื่อไร เพราะต้องละเอียดที่สุด และเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์สาเหตุของอุบัติเหตุได้แม่นยำ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าว จะต้องรายงาน ไปยัง องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization หรือ ICAO) ด้วย
ในเวลาใกล้เคียงกัน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตร่วมเป็นประธานในพิธี อาบน้ำศพกัปตันวัฒนา ถิ่นพังงา ที่วัดโสภณวนาราม หรือวัด ป่าคอลอก ซึ่้งห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร โดยมีบุคคลในครอบครัว ญาติสนิท คณะอาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคถลาง และเพื่อน ๆ ในวงการการบิน เดินทางมาร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยทางญาติจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 7 วันก่อนทำการฌาปนกิจ
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วานนี้ นายนรภัทร ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจและมอบกระเช้าของเยี่ยมให้แก่นักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุ ณ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
โดยมี นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต และนายแพทย์เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ศัลยแพทย์สมองและระบบประสาท ให้การต้อนรับและรายงานผลการรักษา ของนักเรียนทั้ง 2 ว่า นายอาเดล สะแม ยังอยู่ในอาการโคม่า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีอาการสมองบวมและมีเลือดออกในสมองซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ ยังไม่มีอาการบ่งชี้ที่จะต้องเร่งผ่าตัดแต่จะต้องเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีอาการกระดูกหักหลายจุดทั้งแขนขวาและขาขวารวมถึงกระดูกเชิงกรานซึ่งทีมแพทย์ศัลยกรรมกระดูกได้นำโลหะยึดตรึงกระดูกดูแลภายนอกไว้ก่อน และคาดว่าอีก 1 สัปดาห์หลังจากนี้จะทำการผ่าตัดเพื่อนำโลหะไปยึดภายใน อย่างไรก็ตามถือว่าอาการล่าสุดเมื่อเช้ามีอาการที่ดีขึ้นมีการตอบสนองบ้างมีกระดูกเบ้าตาแตกเล็กน้อยซึ่งจะนำทีมแพทย์ศัลยกรรมตกแต่งใบหน้ามาช่วยในการดูแลรักษา เบื้องต้นจะดูแลเรื่องสมองอย่างใกล้ชิดก่อน
สำหรับนางสาวอรวรรณ จินดารัตน์ ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือด้านกระดูก โดยเฉพาะที่นิ้ว ขณะนี้ได้ดามเฝือกไว้ และกระดูกเชิงกรานที่ก้นกบที่มีอาการร้าว เบื้องต้นทำการรักษาตามอาการ คาดว่าจะต้องให้ผู้ป่วยทำการรักษาโดยวิธีการพักอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้กระดูกที่ร้าวประสาน
โดยนายนรภัทร ได้กล่าวให้กำลังใจแก่นักเรียนและครอบครัว ทั้ง 2 และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในนามของจังหวัดภูเก็ตรู้สึกเป็นห่วงนักเรียนทั้งสองเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามจังหวัดภูเก็ตจะหามาตรการในการดูแลและเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยมาตรฐานการศึกษาทั้งเรื่องของการประกันชีวิต ของนักเรียนและครูผู้สอน เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดและทุกฝ่ายไม่อยากจะให้เกิดขึ้น
