เมื่อพูดถึงเรื่องลิง ๆ แล้วก็ทำให้หวนนึกถึงอดีตเมื่อครั้งที่โลกโซเชียลยังไม่ถูกใช้สื่อสารกันอย่างแพร่หลายเช่นในยุคปัจจุบัน หลายปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวจุดชมลิงที่บริเวณเกาะสิเหร่กับครอบครัว และด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ไม่ได้มีความคุ้นชินกับทะเลและป่าชายเลน ทำให้วันนั้นเหมือนเป็นวันแห่งการทัศนศึกษาที่เรียกความตื่นเต้นได้มากทีเดียว จากการยืนมองลิงมากมายที่มีหลายขนาด ตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างหรือแม้แต่แม่ที่หอบหิ้วลูกน้อยวิ่งขึ้นลงต้นไม้ที่มีมาให้เห็นตลอดเวลา
วันนั้นจำได้ว่ามีหลายคนที่ได้โยนให้อาหารกับเจ้าลิงพวกนั้น จะว่าไปมันก็เพลินดี แม้จะกลัวลิงที่เข้ามาใกล้อยู่หน่อย ๆ ก็ตาม แต่ความสุขของกะทิก็ต้องหายไป เหลือไว้เพียง “ความโกรธปนความสงสัย” เมื่อมีคนคนหนึ่งเดินทางมายังบริเวณดังกล่าวพร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่ ที่ภายในบรรจุขนมปังชิ้นเล็กชิ้นน้อยซึ่งแต่ละชิ้นถูกบรรจุในถุงพลาสติกแยกย่อยต่างหาก
ทันทีที่เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงบริเวณให้อาหาร เขาคนนั้นก็ได้ “โยน” ถุงอาหารเหล่านั้นลงไปบนพื้นของป่าชายเลน เพียงเสี้ยววินาทีบรรดาเจ้าจ๋อก็กรูกันเข้ามาหยิบแย่งขนมปังถุงแล้วถุงเล่า บ้างก็ฉีกถุงกินมันซะตรงนั้น บ้างก็รีบคว้าและวิ่งขึ้นไปบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ลิงทุกตัวทำเหมือนกันคือแกะกินขนมปังภายในถุง และ “ทิ้ง” เศษถุงพลาสติกลงสู่พื้นดินต่อหน้าต่อตาของผู้ที่นำมาให้และบรรดาผู้ชม
คำถามเกิดทันที “ทำไมทำแบบนั้น” แม้อีกใจจะคิดว่าคนที่เขาเอามาให้เขาอาจจะคิดมาแล้วและมีเจตนาที่ดี แต่ฉันเองกลับเสียใจและรู้สึกแย่มากที่ต้องเห็นภาพแบบนั้น ขยะเกลื่อนกลาดพวกนั้นคงไม่ได้ส่งผลดีต่อธรรมชาติหรือระบบนิเวศบริเวณเลย ฉันได้แต่เก็บคำถามเหล่านั้นไว้ในใจ พลางคิดว่าฉันจะทำอะไรได้บ้างไหม เพื่อหยุดการเพิ่มขยะในธรรมชาติจากน้ำมือมนุษย์ เหมือนที่ต้องเจอในวันนั้น (วันนี้พูดถึงลิงก่อน ไว้วันหน้าค่อยร่ายเรื่องให้อาหารปลาในทะเล)