จับร่างทรงองค์ปู่ฤาษีสงบสติในคุก หลังเมาอาละวาด ตร.ไม่ฟังแม้อ้างองค์ปู่-องค์กุมารประทับร่าง

สมุทรปราการ – เกิดเหตุป่วนทั้งโรงพัก เมื่อสองร่างทรงอดีตคู่รักเปิดศึกทะเลาะปะทะเดือดกลางสถานีตำรวจ เหตุเพราะเงิน 1000 บาท ฝ่ายชายร่างทรงปู่ฤาษีที่มาพร้อมพร็อพชัดเจน ตะโกนก้องโรงพักด่าทอและพยายามทำร้ายร่างกาย อดีตภรรยาร่างทรงท้าวมหาพรหม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ต้องควบคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่เมื่อร่างทรงองค์ปู่ฤาษีรู้ตัวว่าต้องไปนอนในคุก กลับเปลี่ยนองค์ประทับเป็นกุมารทองทันที กระนั้นก็มิได้รับความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 22 มิถุนายน 2561, เวลา 11:55 น.

โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย. 61) เมื่อเวลา 00.30 น.ขณะที่ พ.ต.ท.ธนันชัย สืบศรีขจรรัฐ สารวัตรเวรสอบสวน สภ. สำโรงเหนือ จ. สมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ร.ต.ต.ณัฐวุฒิ มีชำนาญ รอง สวป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจงานป้องกันและปราบปราม ได้ร่วมกันคุมตัวนายสมศักดิ์ เปรมปราศรัย อายุ 41 ปี ที่อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงพ่อปู่ฤาษีนารอด ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาและอาละวาดส่งเสียงโวยวายด่ากราดอดีตภรรยา ที่เป็นร่างทรงขององค์ปู่ท้าวมหาพรหม วัย 50 ปี มาส่งให้ควบคุมตัวไว้สงบสติอารมณ์ในข้อหาเมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย ในที่สาธารณะ

ขณะคุมตัวนายสมศักดิ์ มาสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจนั้น นายสมศักดิ์ยังได้คว้าเอาเศียรปู่ฤาษีมาด้วย พร้อมกับขันทองเหลือง1 ใบ และระหว่างนั้นปรากฏว่าองค์ปู่ของนายสมศักดิ์ได้ลงประทับร่าง ต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนั้น และได้เกิดปะทะคารมอย่างดุเดือดกับอดีตภรรยา ซึ่งเป็นร่างทรงท้าวมหาพรหมที่อยู่บนโรงพักในขณะนั้นด้วย โดยนายสมศักดิ์ได้เอ่ยปากทวงเงินจำนวน 1,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าแรงในการรับเหมาก่อสร้างย่านในพระราม 7 ที่อดีตภรรยาแอบไปเบิกมาจากนายจ้าง ทำให้นายสมศักดิ์ไม่มีเงินซื้อข้าวให้ลูกน้องกิน

ด้านอดีตภรรยาก็ได้คืนเงินให้ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 500 บาท พร้อมอ้างว่าเหลือเงินเพียงเท่านี้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้นายสมศักดิ์สงบลงได้ หนำซ้ำยังแสดงท่าทีว่าจะเข้าไปทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปห้ามปราบและพยายามนำตัวเอาไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง

แต่ทันทีที่ร่างทรงองค์ปู่รู้ตัวว่าจะต้องเข้าไปนอนในซังเต ก็บังเกิดมีองค์กุมารชื่อฟ้าใสลงประทับร่าง ทำท่าตุ้งติ้งเหมือนเด็กอ้างว่าจะมารับพ่อกลับบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากนายสมศักดิ์ยังอยู่ในอาการมึนเมาและได้คุมตัวเพื่อไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง

ในขณะนั้นเองนายสมศักดิ์ก็เกิดมีอาการขึงขังขึ้นมาพร้อมพูดเสียงดังว่า “กูมาทวงเงินของกู แต่มึงจะเอากูเข้าห้องขัง กูผิดอะไร” พร้อมที่เอะอะโวยวายขว้างปาข้าวของใส่พื้น แต่ก็ไม่เกินกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าควบคุมตัวร่างทรงและนำตัวเข้าไปสงบสติอารมณ์ในมุ้งสายบัวได้
ซึ่งทันทีที่นายสมศักดิ์ถูกคุมตัวก็ถึงกับใบหน้าถอดสีและมีอาการสงบลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ก็ได้คุมตัวเอาไว้ก่อนเพื่อให้เจ้าตัวสร่างเมา ก่อนที่จะทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหา “เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย” และปล่อยตัวกลับไป

อ่านข่าวต้นฉบับ โพสต์ทูเดย์

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่