No Sex in Public

ภูเก็ต - ผู้การภูเก็ตฝากถึงนักท่องเที่ยว ให้เคารพประเทศไทย

วันจันทร์ ที่ 15 พฤษภาคม 2560, เวลา 09:03 น.

จากกรณีเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sornchai Uadsree ได้โพสต์วีดิโอคลิปความยาว 28 วินาที ลงในกลุ่มขับรถแบบนี้ต้องประจานภูเก็ต พร้อมข้อความระบุว่า “รอให้ถึงโรงแรมก่อนดีไหม มันอยากถึงขนาดนี้เลยเหรอ” โดยในคลิปดังกล่าวปรากฏเป็น รถตุ๊กตุ๊กคันสีแดงกำลังวิ่งอยู่บนถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเส้นทางริมหาดกะรน บนรถคันดังกล่าวได้มีหนุ่มสาวชาวต่างชาติกำลังมีลักษณะคล้ายกับการมีเพศสัมพันธ์กันขณะที่รถกำลังวิ่งไป

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความเป็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ด่าทอ และแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

จนเมื่อเย็นของวันที่ 7 พ.ค. 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้นำตัวสองนทท.รัสเซีย (ของสงวนชื่อนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในคลิปดังกล่าวเดินทาง เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมและทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท (รายละ 500 บาท)ในฐานความผิดอนาจารในที่สาธารณะ ซึ่งนทท.ทั้งสองมีสีหน้าเคร่งเครียด ต้องใช้อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวเป็นล่ามแปลภาษาคอยอธิบายทุกขั้นตอนอย่างละเอียด โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำตัวส่งกลับยังที่พัก

ทั้งนี้ นทท.ทั้งสองยอมรับว่าในวันเกิดเหตุนั้น ได้ถอดเสื้อผ้าบางส่วนและกระทำท่าทางคล้ายกับการมีเพศสัมพันธ์ แต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์จริงๆ ซึ่งตามกฎหมายแล้ว การถอดเสื้อผ้าเข้าข่ายอนาจารจึงต้องดำเนินการเปรียบเทียบปรับ

“เรื่องแบบนี้มันยากเกินกว่าจะควบคุมได้ เพราะมันเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ซึ่งผมเองไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก เพราะมันเป็นเรื่องของสามัญสำนึกที่ทุกคนควรจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าการกระทำในลักษณะนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นในที่สาธารณะ ไม่ว่าในประเทศใดก็ตาม” พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าว

“อย่างไรก็ตาม ผมอยากฝากนักท่องเที่ยวระลึกไว้ว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ และจงให้ความเคารพประเทศไทย” ผู้การฯ กล่าว

ด้านนายปรีชาวุฒิ “ปราบ” กี่สิ้น อดีตประธานสหพันธ์รถบริการป่าตอง สัมพันธ์ (จัดขึ้นตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมของ จ.ภูเก็ต) ปี 2553ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “ทุกคนคิดตรงกันว่าการกระทำดังกล่าวไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะกระทำในที่สาธารณะ และผมจะไม่พูดถึงเรื่องการกระทำนี้ ผมเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวทั้งสองอยู่ในอาการเมาหรือเกิดจากความคึกคะนอง”

“ผมเองกลับมองในด้านธุรกิจมากกว่า การที่มีภาพแบบนี้ออกไปสู่สายตาสาธารณชนทั่วประเทศ และแน่นอนในสมัยที่ทุกคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ต ภาพแบบนี้ย่อมสื่ออกไปทั่วโลก ผมนึกไปถึงคนที่เขาเผยแพร่ภาพแบบนี้ออกไปมากกว่า ผมคิดว่าเขาควรจะต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ ก่อนที่จะทำให้การกระทำนั้นออกไปสู่สายตาประชาชนบนโลกโซเชียลมีเดีย”

“การที่เราเผยแพร่ภาพในลักษณะนี้ออกไป มันกระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตแน่นอน” นายปรีชาวุฒิ กล่าว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่