มองข้อดีของ “ความเห็นแก่ตัว”

บทความ - “อันนินทากาเลเหมือนเทนํ้า ไม่ชอกชํ้าเหมือนเอามีดมากรีดหิน แม้องค์พระปฏิมายังราคิน มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา” กลอนแปดโดย ท่าน "สุนทรภู่" กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้แต่งเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะผ่านเวลาไปกว่าหลายร้อยปี แต่ยังคงความหมายอันลึกซึ้งและเป็นจริงจนถึงทุกวันนี้

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันอาทิตย์ ที่ 27 สิงหาคม 2560, เวลา 17:00 น.

ภาพ S Packwood

ภาพ S Packwood

เมื่อครั้งยังวัยรุ่น ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการ “การยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม” พวกเราจะพยายามทำตาม พยายามวิ่งตามเพื่อนและสังคมรอบข้าง เพียงเพื่อไม่ให้รู้สึกแปลกแยกจากเทรนด์หรือสมัยนิยมนั้น ๆ

เพราะเราอยากจะมีเรื่องคุยกับเพื่อน ทั้ง ๆ ที่บางคราวสิ่งที่แสดงออกไปอาจจะไม่ใช่ตัวของตัวเองจริงๆ และบางคนก็จะเริ่มที่จะฉายแววโดดเด่นเป็นที่จับตามอง ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ยังได้รับคำยกย่องชมเชยจาก
เพื่อน ๆ และผู้คนรอบข้า งอีกด้วย และนั่นมันก็เป็น เรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไมผู้คนนถึง
ต้องการที่จะเป็นจุดสนใจและมีชื่อเสียง

นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะ “ความสำเร็จและคำยกย่องชมเชย” นั้น ใคร ๆ ก็อยากจะได้มาและกอดเอาไว้ คงไม่มีใครที่จะปรารถนา“ความพ่ายแพ้ หรือ คำติฉินนินทา” แต่อย่าลืมว่าคนเราทุกคนหนีเรื่องนี้ไม่พ้น เพราะมีทุกข์ก็ต้องมีสุข มีสำเร็จก็ต้องมีล้มเหลวปะปนกันไปไม่มีอะไรที่แน่นอน ทุกอย่างในโลกล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นและดับลงทั้งสิ้น

จากวัยรุ่น สูวั่ยทำงาน จนถึงวันนี้ (ที่ยังคงทำงานทุกวันและเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนหนึ่ง) แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ “ความสุข” ความสุขจากการอยู่กับ “ความเป็นจริง” และความสุขการอยู่ได้ด้วยตนเอง ความสุขจากการเปลี่ยนด้านมืดของ “ความเห็นแก่ตัว” มาเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต เพราะคนเราทุกคนมีความเห็นแก่ตัว ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าให้ใช้มันเพื่อเบียดบังคุกคามผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งประโยชน์ แต่ผู้อื่นต้องรับเอาความทุกข์ไว้

“ความเห็นแก่ตัว” ที่ว่านี้คือการมองเห็นและทำในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดทั้งหน้าที่และสิทธิพลเมือง โดยไม่ก้าวก่ายสิทธิและหน้าที่ของผู้อื่น เพียงเราทำตัวเองให้ดี เราก็ไม่จำเป็นที่ต้องคอยกังวลว่าผู้คนรอบข้างจะคิดกับเรา
อย่างไร เราเอาเวลาไปทำตัวเองให้มีคุณค่าและช่วยเหลือผู้คนอื่นในคราวที่มีโอกาสจะดีกว่า

ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อคุณเป็นคนดีและมีคุณค่าคนที่เขาคิดร้ายหรือคอยใส่ร้ายนินทาก็ต้องแพ้ภัยไปเอง เพราะวันหนึ่งคนรอบข้างเขาก็จะสัมผัสตัวตนของคุณได้ในที่สุด จงอย่าเป็นกังวลจนเกินไป ปล่อยให้คนอื่นตัดสินคุณจาก
ภายนอก ให้เขาเข้าใจผิด ให้เขานินทา เพราะเราไม่สามารถไปห้ามความคิดของใครได้ และความคิดเห็นของคนอื่นก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณ

ทักษะการเอาตัวรอดมีหลายแบบ ถ้าคุณใช้เวลาและแรงไปกับการตามแก้ ตามอธิบายคำนินทาต่าง ๆ ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย และหากคิดจะย้ายไปอยูที่อื่นเพื่อหนีปัญหาก็ไม่รู้จะย้ายไปแห่งหนใดจึงจะพ้นคนนินทา เพราะฉะนั้น
การ “วางเฉย” น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด และทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นอีกเยอะเลย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่