แต่ยังมีกลุ่มคนตัวเล็กๆ ที่ดูจะตั้งตารอคอยและมีความสุขกับช่วงเวลานี้ของปีเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมมาถึง วันนั้นคือวันของพวกเขาอย่างแท้จริง วันที่ผู้ใหญ่จะ “เห็นความสำคัญและให้ความสำคัญ” กับพวกเขา เนื่องในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ”
ธรรมเนียมปฏิบัติที่เราคนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็คือ ในแต่ละปีนายกรัฐมนตรีจะมอบคำขวัญวันเด็กในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสำหรับในปีนี้ในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านก็ได้มอบคำขวัญเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ที่ 13 ม.ค. ว่า "รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี"
คำขวัญอันสวยงามที่แฝงคุณค่าในตัวเอง ให้เด็กๆ ได้ถือเป็นแบบอย่าง และแน่นอนว่า เด็กๆ ที่รู้จักคิด รู้เท่าทันเหตุการณ์บ้านเมือง รู้เท่าทันความคิดคนอื่นและรู้ว่าตนเองต้องการอะไร รวมถึงการริเริ่มสร้างสรรค์เทคโนโลยีนั้น คือสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งยังนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของพ่อแม่ ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานมากความสามารถ
“เด็กวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” ผู้ใหญ่ในวันนี้ก็ล้วนแล้วแต่เคยผ่านช่วงเวลาวัยเด็กมาแล้วทั้งสิ้น สำหรับฉันเองในวันนี้ที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว วันที่ฉันได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักทุกวัน ได้คิด ได้เขียน ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา พูดได้เลยว่า ฉัน ณ วันนี้มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่มาก แม้ว่าจะมีปัญหาในชีวิตส่วนตัวและการทำงานบ้าง แต่ก็ต้องแก้ไขกันด้วยสติและความอดทนต่อไป
อย่างไรก็ตาม “วันเด็ก” ก็ทำให้ฉันได้ย้อนกลับไปมองตัวเองในวัยเด็ก ฉันต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ท่านเลี้ยงดูฉันมาเป็นอย่างดี ให้ฉันได้มีโอกาสคิด ทำ และพูด ในสิ่งที่คิดว่าดีแล้ว โดยปราศจากการขีดกรอบหรือบีบบังคับแต่อย่างใด เพียงแค่มองดูการเติบโตของฉันอย่างใกล้ชิด เดินร่วมทางกับฉันไปทุกแห่งทั้งด้านความคิดและการกระทำ รวมทั้งคำแนะนำอันทรงคุณค่า ซึ่งในบางครั้งที่ฉันประพฤติผิดไป พวกท่านก็จะตักเตือนพร้อมคำอธิบายให้ฉันรู้ได้ว่าฉันทำผิดไปอย่างไร
ในความที่ฉันเป็นคนช่างคิด ช่างสังเกต และค่อนข้างจะมีความคิดเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก ฉันจึงได้รับการ “ปฏิบัติ” จากผู้ใหญ่บางคนที่คิดว่า “เด็กดี” คือเด็กที่ “ทำตาม” กรอบที่เขาวางไว้ หรือคำตอบที่เขาตั้งเอาแล้วไว้เท่านั้น ซึ่งนั่นมันคือการทำลายความคิดสร้างสรรค์ของเด็กคนหนึ่งอย่างร้ายกาจ
ฉันเองจึงได้แต่หวังว่า ผู้ใหญ่อย่างเราที่เคยเป็นเด็กในวันนั้น จะมองเห็นข้อผิดพลาดของผู้ใหญ่ในยุคเดิม และนำมาปรับใช้ให้สมกับคนยุคใหม่ ไม่ขีดกรอบหรือจำกัดความคิดของเด็กๆ ในความดูแลหรือบุตรหลานของเราเอง ปล่อยให้เขาได้มีความคิด ให้เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ในขณะที่เราเฝ้าคอยดูแล สนับสนุนอยู่ใกล้ๆ พวกเขาก็เพียงพอแล้ว
