เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบชายหาดป่าตองและที่จอดรถสาธารณะ เพื่อให้เป็นไปตามที่ระเบียบและกฎหมายกำหนด
พล.ต.พรศักดิ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า หลังจากมติที่ประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการ จึงได้ตัดสินใจให้มีการนำเตียงชายหาดมาใช้บริการนักท่องเที่ยวได้ในโซนพื้นที่ 10%
“อย่างไรก็ตาม การเตียงที่ให้วางนั้นขณะนี้ยังไม่มีการกำหนด ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และอาจจะเพิ่มจำนวนได้บ้างเล็กน้อยในช่วงไฮว์ซีซันที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนเพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ก็จะมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานท้องถิ่นเข้ามากำกับดูแลในรูปของคณะกรรมการฯ” พล.ต.พรศักดิ์ กล่าว
ข้อบังคับการจัดระเบียบชายหาดพื้นที่ 10% ของจังหวัดภูเก็ตนั้น เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 2557 โดยนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในสมัยนั้น ได้จัดงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อทำความเข้าใจ ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการบริหารจัดการหาดอย่างยั่งยืน
โดยมีข้อตกลงร่วมกันในแนวทางของการบริหารจัดการหาด ทางจังหวัดภูเก็ตโดยคณะกรรมการบริหารจัดการหาด ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนทุกภาคส่วน เพื่อการสถาปนาความยั่งยืนของการดำเนินการ
มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ คือคนที่มีฐานะยากจน คนพิการ คนชรา ที่เคยทำมาหากินอยู่บริเวณชายหาด ทางจังหวัดเองตั้งใจเข้ามาดูแลและไม่ได้ทอดทิ้ง โดยวิธีการวิธีการช่วยเหลือคนยากจนเหล่านั้น ก็เป็นการจัดทำพื้นที่ ที่จะให้เป็นพื้นที่พิเศษขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว
ข้อตกลงคือ อนุญาตให้ผู้ประกอบการชายหาดกลับมาให้บริการได้ แต่ให้อยู่ภายในพื้นที่เพียงแค่ 10% ของชายหาดเท่านั้น ที่จะถูกนำมาใช้เพื่อบริการนักท่องเที่ยว โดยก่อนหน้านี้มีเพียงร่ม และ เสื่อหรือเบาะเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้วางบริเวณชายหาดเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว และอนุญาตผู้ประกอบการให้บริการได้ระหว่างเวลา 9.30 – 16.30 น. เท่านั้น โดยต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นทางจังหวัดจะยกเลิกข้อตกลงและไม่อนุญาตให้มีบริการใดใดบนชายหาด
การจัดระเบียบชายหาด 10% ดังกล่าว ได้เกิดขึ้น หลังมีคำสั่งจัดระเบียบชายหาดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อเดือน มิถุนายน 2557 และทางจังหวัดก็ได้เริ่มปฏิบัติการณ์ทวงคืนพื้นที่สาธารณะชายหาด ทำให้ธุรกิจและผู้ประกอบการกว่า 100 รายได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว และหากผู้ประกอบการคนใดไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง ก็จะถูกดำเนินคดีเด็ดขาดในข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ
จังหวัดได้ดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้เรื่อยมา ต่อเนื่องมาถึงสมัยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ที่กลับมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หลังจากที่เป็นตัวหลักสำคัญในหารดำเนินงานจัดระเบียบชายหาดตั้งแต่ ปี 2557 ครั้งยังดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มาสานต่อและกำหนดมาตรการจัดระเบียบชายหาดภูเก็ตให้เป็น “ภูเก็ต บีช โมเดล”
ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีคำสั่งจัดระเบียบชายหาดออกมา ชาวบ้านก็ได้พยายามร้องขอ และร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภูเก็ตเองและส่วนกลาง แต่ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด จนกระทั่งบัดนี้
