“บลูทรี” สวนน้ำ 1.3 พันล้าน ศูนย์รวมความสนุกและกิจกรรมครอบครัวแห่งใหม่ของภูเก็ต

ธุรกิจ - บลูทรี ภูเก็ต ได้ประกาศแต่งตั้งนายไมเคิล ไอย์ลิง ผู้มากด้วยประสบการณ์ด้านฮอสพิทาลิตี้แห่งเกาะภูเก็ตขึ้นเป็นผู้จัดการทั่วไปอย่างเป็นทางการ หลังจากทำงานในส่วนของการให้คำปรึกษามาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ปัจจุบันนายไมเคิลได้ก้าวเข้ามาคุมบังเหียนการพัฒนาโครงการ โดยจะเปิดสู่สายตาสาธารณชนในต้นปี 2562 ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้

ข่าวภูเก็ต

วันอาทิตย์ ที่ 5 สิงหาคม 2561, เวลา 12:00 น.

โครงการขนาดใหญ่มูลค่า 1.3 พันล้านบาทนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 140 ไร่ในเชิงทะเล โดยจะมีสวนน้ำขนาดยักษ์เป็นจุดศูนย์กลาง

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเฟสแรกที่ก่อสร้างบนพื้นที่ 70.8ไร่ จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งจะรวมไปถึงสวนน้ำและกิจกรรมสันทนาการมากมาย บีชคลับความสูง 4 ชั้น โซนฟิตเนส คิดส์คลับ และพื้นที่ค้าปลีกมากมายสุดอลังการณ์ ที่จะได้พบกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีสินค้าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ชั้นนำเป็นจุดดึงดูดนอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำนักงาน ความบันเทิงยามค่ำคืนในรูปแบบอัฒจันทร์ปราศจากหลังคา ร้านอาหาร และภัตตาคารอย่างน้อย 17 ร้าน และพื้นที่จอดรถที่รองรับได้มากถึง 500 คัน

และทุกความอลังการณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จะอยู่ล้อมรอบจุดศูนย์กลางสุดอลังการณ์ : บลูทรีลากูน

ทะเลสาบเทียมขนาด 17,000 ตารางเมตรจะถูกขนาบไปด้วยชายหาดและทะเลเทียมสำหรับครอบครัว พร้อมไปกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากมาย อย่างเช่น Slip N Fly สแปลชโซน หรือแม้แต่กิจกรรมสุดตื่นเต้นอย่างการกระโดดหน้าผา

นอกเหนือจากการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อรักษาความใสสะอาดของน้ำแล้ว โครงการบลูทรีลากูน ยังได้รับการรับรองด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยนักพัฒนาเทคโนโลยีระดับโลกอย่างคริสตัล ลากูน ซึ่งทะเลสาบมีการใช้สารเคมีน้อยกว่าระบบสระว่ายน้ำทั่วไปถึง 100 เท่าและประหยัดพลังงาน 50 เท่า

สำหรับนายไมเคิล ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการสันทนาการชาวอังกฤษ ได้นำเอาประสบการณ์ล้ำค่ามาสู่บทบาทของเขา ซึ่งรวมไปถึงประสบการณ์ทำงาน 12 ปีกับลากูน่าภูเก็ต หนึ่งในรีสอร์ทครบวงจรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากที่สุดบนเกาะภูเก็ต

"ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอันยิ่งใหญ่และน่าสนใจเช่นนี้" นายไมเคิล กล่าว
"บลูทรีจะกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่แห่งเกาะภูเก็ต และจะช่วยปรับภาพลักษณ์ความเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับวันหยุดที่ดีที่สุดในโลก" เขากล่าวเสริม

“ผมทำงานร่วมกับทีมมากว่าสองปีแล้ว ตั้งแต่เริ่มขั้นตอนการวางแผนงานหลักทั้งหมด ตลอดจนถึงการเลือกหุ้นส่วนและการจัดการทั้งระบบ ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุดและมั่นใจว่าบลูทรีจะนำพาประสบการณ์ครอบครัวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาสู่พี่น้องชาวภูเก็ต รวมไปถึงชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมายังเกาะแห่งนี้”

เขาเริ่มงานกับลากูน่าในปี 2543 รับหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของโรงแรมต่าง ๆ รวมกว่า 8 แห่ง ประกอบด้วย บันยันทรี 2 แห่ง, ดุสิตธานี และเชอราตัน แกรนด์ อีกทั้งยังดูแลสนามกอล์ฟ, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, การก่อสร้างต่าง ๆ รวมไปถึงและการตลาดและงานขาย ครอบคลุมการดูแลผู้พักอาศัยกว่า 400 ราย

ซึ่งก่อนที่จะร่วมงานกับลากูน่าเขาใช้เวลามากกว่าสิบปีในการทำงานกับอุตสาหกรรมการบริการระดับมืออาชีพของเคพีเอ็มจี ตั้งแต่สำนักงานที่อ็อกซ์ฟอร์ดในประเทศอังกฤษ กระทั่งย้ายบริษัทไปที่ปาปัวนิวกินี ซึ่งความรับผิดของเขานั้นตรงกันข้ามกับบทบาทใหม่ที่บลูทรี ภูเก็ต

โครงการนี้จะเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ด้วยเป้าหมายแห่งการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของภูเก็ตที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่สู่ครอบครัวชาวไทยและชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ต สำหรับข้อมูลจากทางโครงการ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมาระบุว่า ค่าธรรมเนียมตั้งไว้ที่ราคา 1พันล้านบาทต่อหัว

"แน่นอนว่าภูเก็ตเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในเรื่องของทะเลและหาดทรายอันงดงาม แต่ก็เห็นได้ชัดเจนเช่นกันว่า มีความต้องการให้เกิดมีทางเลือกด้านความบันเทิงที่มากขึ้นเช่นกัน" นายไมเคิล กล่าว

"บลูทรี จะนำคุณไปพบกับประสบการณ์ชีวิตแบบใหม่ที่รวบรวมเอาไว้ซึ่งความสนุกสนานของกีฬาทางน้ำ กิจกรรมของครอบครัว การจับจ่ายใช้สอยและการผ่อนคลาย ไว้ในจุดหมายปลายทางเพียงแห่งเดียว ที่พร้อมจะส่งมอบความสุขและตอบสนองความต้องการของทุกท่านได้อย่างตรงใจ" เขากล่าวทิ้งท้าย

 

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่