ครม.อนุมัติงบกลางอุดหนุนเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ 998.4 ล้านบาท

ครม. มีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 998.442 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้การจ่ายเงินอุดหนุนสำหรับการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 2,254,534 คน ในเดือนกันยายน 2566 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันพฤหัสบดี ที่ 31 สิงหาคม 2566, เวลา 10:24 น.

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

โดยความจำเป็นที่ขออนุมัติงบกลางฯ ในครั้งนี้ เนื่องจากผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – สิงหาคม 2566 มีจำนวนเกินกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ ทำให้งบประมาณปี 2566 ที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิในเดือนกันยายน 2566 ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงจำเป็นต้องขออนุมัติงบกลางดังกล่าว โดยขั้นตอนต่อไปสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งให้สำนักงาน กกต. พิจารณาต่อไป

โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินโครงการ “เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” เพื่อสนับสนุนครอบครัวให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการขั้นพื้นฐานของเด็กกลุ่มเปราะบางที่สุดของประเทศไทยและส่งเสริมการเข้าถึงบริการหลักในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัยและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งจัดสวัสดิการพื้นฐานแก่เด็กแรกเกิดให้ได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2558 ตามมติครม. ดังนี้

1. มติครม. เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 58
กลุ่มเป้าหมายเด็กที่อยู่นอกระบบประกันสังคมในครัวเรือนยากจนหรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน (รายได้ครัวเรือนเฉลี่ยไม่เกิน 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี) เป็นเด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559 โดยอุดหนุนเงินรายละ 400 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี เริ่มจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2559
2. มติ ครม. เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 59
ให้ขยายเวลาการให้เงินอุดหนุน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี และเพิ่มวงเงินเป็น 600 บาท ต่อคน ต่อเดือน
3. มติ ครม. เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 60
ยกเลิกเงื่อนไขผู้มีสิทธิที่ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระบบประกันสังคม เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 รวมทั้งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาความเหมาะสมเชื่อมโยงข้อมูลผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการของรัฐ นํามาใช้เป็นเกณฑ์กําหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการและปรับปรุง กระบวนการตรวจสอบและรับรองสิทธิ
4. มติ ครม. เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 62
ขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปี และขยายฐานรายได้ของกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี

เปิดหลักเกณฑ์ ผู้ได้รับสิทธิ
เด็กแรกเกิดที่มีสิทธิ
• มีสัญชาติไทย (พ่อแม่มีสัญชาติไทย หรือพ่อหรือแม่มีสัญชาติไทย)
• เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี
• อาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
• ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน

ผู้ปกครองที่มีสิทธิลงทะเบียน
• มีสัญชาติไทย
• เป็นบุคคลที่รับเด็กแรกเกิดไว้ในความอุปการะ
• เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
• อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย คือ สมาชิกครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี

การสมัครเงินอุดหนุนบุตร 2566
• กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่สำนักงานเขต
• เมืองพัทยา ติดต่อได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
• ส่วนภูมิภาค ติดต่อได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล

การจ่ายเงินเข้าบัญชีธนาคาร
บัญชีธนาคารที่ใช้สำหรับแนบเอกสารเพื่อยื่นลงทะเบียนในโครงการ ประเภทบัญชีเงินฝากจะต้องเป็น ออมทรัพย์ สะสมทรัพย์ เผื่อเรียก กระแสรายวัน เท่านั้น ซึ่งจะดำเนินการจ่ายเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (Payment) โดยมีทั้งหมด 3 ธนาคาร ดังนี้
• ธนาคารกรุงไทย (บัญชีออมทรัพย์)
• ธนาคารออมสิน (บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก)
• ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) (บัญชีเงินฝากออมทรัพย์)

ทั้งนี้ นโยบายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเป็นโครงการที่ทุกรัฐบาลควรให้สนับสนุนด้านงบประมาณอย่างเพียงพอ เพื่อสร้างโอกาส และขยายสิทธิของเด็กที่ไปสู่เด็กไทยทุกคน ที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ให้ได้รับเงินอุดหนุนฯ ถ้วนหน้า เพื่อให้เด็กได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่ร่วมกันในสังคมโดยข้ามผ่านความเหลื่อมล้ำทางสังคมอีกด้วย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่